โดย nemo413 » 07/09/2019 8:09 am
ประวัติของ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
แจ็ค หม่า คือหนึ่งในบุคคลที่เป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการระดับโลกที่ดีที่สุด เขาไต่เต้ามาจากการเป็นไกด์นักท่องเที่ยวซึ่งมีฐานะยากจน เป็นที่รู้กันว่าถึงแม้จะประสบความสำเร็จอย่างใหญ่โตแต่ หม่า ก็ยังคงเป็นคนที่ถ่อมตนและไม่เคยลืมตัว สิ่งแรกที่เป็นตัวช่วยนำพาเขาสู่ความสำเร็จคือเขาเริ่มต้นด้วยการเรียนพูดภาษาอังกฤษ
เขาเป็นคนกลุ่มแรกๆที่มองเห็นประโยชน์ของการทำธุรกิจในอินเตอร์เน็ต เขาเล็งเห็นโอกาสและลงมือทำในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อและไม่เห็นด้วย และได้เริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจด้วยเงิน 20,000 ดอลลาร์ ต่อมาจึงสามารถทำกำไรได้เป็นเงิน 800,000 ดอลลาร์ภายในเวลาสามปี
ในเวลาต่อมาจึงหันไปเปิดเว็บไซต์อาลีบาบาในช่วงที่ผู้คนหันมาซื้อของทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้นรายได้จากเว็บไซต์นี้ก็พุ่งทะยานและทำให้เขาได้กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน นอกนั้นเขายังมีส่วนร่วมในการก่อตั้งเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์สัญชาติจีนคือ Taobao อีกด้วย แจ็ค เป็นนักธุรกิจที่ได้รับรางวัลมากมายในตลอดช่วงเวลาการทำงานของเขา ซึ่งรางวัลที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็คือรางวัลจากนิตยสาร Forbes กับนิตยสาร Time
ชีวิตในวัยเด็ก
พ่อแม่ของ แจ็ค หม่า ทำอาชีพเป็นนักเล่าเรื่องโดยใช้การเล่นดนตรี ในช่วงวัยรุ่นเขาพยายามอย่างหนักในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยตั้งใจว่าจะต้องพูดภาษานี้ให้ได้ พอโตขึ้นเขาก็ทำงานเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวไปชมสุดชมวิวต่างๆในเมืองหางโจว เขาจงใจเลือกทำอาชีพนี้เพื่อที่จะฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของเขา ต่อมาจึงเข้าเรียนที่ “สถาบันครูในเมืองหางโจว” และจบการศึกษาที่นั่นในปี ค.ศ.1988 หลังจากนั้นเขาก็เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ 5 ปีและลาออกไปทำธุรกิจ
ในตอนที่เขาเริ่มต้นทำธุรกิจ
แจ็ค หม่า ได้มีโอกาสรู้จักกับอินเตอร์เน็ตในช่วงกลางยุค 90s และได้มองเห็นถึงกระแสนิยมใหม่ , เห็นโอกาสในการประกอบธุรกิจด้วยอินเตอร์เน็ต
ในปี ค.ศ.1995 เขาเดินทางไปประเทศอเมริกาอยู่บ่อยครั้งเพื่อที่จะเรียนรู้การใช้งานอินเตอร์เน็ต และเพื่อนของเขาก็ได้สอนวิธีการเข้าใช้งานเว็บไซต์แก่เขา และในปีนั้นเองเขาก็ได้รวมทุนเป็นเงิน 20000 ดอลลาร์เพื่อเปิดบริษัทขึ้นมา
โดยบริษัทจะโฟกัสไปในการสร้างเว็บไซต์ให้กับลูกค้า แต่ถึงแม้มันจะเป็นธุรกิจใหม่แต่ก็ยังสามารถทำเงินให้เขาได้ถึงแปดแสนดอลลาร์ในช่วงเวลาสามปี ความสำเร็จของเขาทำให้ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลจีนให้เป็นหัวหน้าของศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นานาชาติจีนในปี ค.ศ.1998 แต่เขาทำงานกับบริษัทนี้ต่อแค่เพียง 1 ปี ก็ตัดสินใจเปิดบริษัทใหม่
หลังจากลาออกจากบริษัทของตัวเองเขาและเพื่อนๆก็ได้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบาขึ้นมา โดยมีเป้าหมายในการสร้างเว็บไซต์ที่ให้บริการขายของออนไลน์ โดยได้เงินสนับสนุนถึง 25 ล้านดอลลาร์ทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและในที่สุดก็เปิดสาขาไปใน 240 ประเทศทั่วโลก พอเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 21 เขาก็ร่วมก่อตั้งบริษัท e-business เพิ่มขึ้นมาอีกคือ Taobao , Lynx และ Ali Mama ซึ่งเขาเล็งเห็นว่าในอนาคตมันจะทำกำไรอย่างมาก
ต่อมาทางบริษัทอีเบย์ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเว็บไซต์ Taobao และพยายามติดต่อของซื้อบริษัท Taobao แต่ แจ็ค หม่า ไม่สนใจกับข้อเสนอจากทางอีเบย์ ในที่สุด Taobao ก็ไปเตะตาเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ Yahoo.com นั่นเองซึ่งบริษัท Yahoo ก็เข้ามาร่วมลงทุนด้วยโดยใช้เงินไป 1 พันล้านดอลลาร์
ต่อมาในปี ค.ศ.2007 เขาตกเป็นเป้าหมายของคำวิจารณ์เพราะมีคนเอาสินค้าที่ทำจากสัตว์มาขายในเว็บไซต์อาลีลาบา แถมยังทำให้บริษัทได้กำไรจากสินค้าประเภทนี้เป็นเงินมหาศาลอีกด้วย ทำให้ต้องมีการออกกฏใหม่เช่นห้ามขายสินค้าที่ทำด้วยหนังปลาฉลาม เป็นต้น
Suggested Quality Articles by Drivemate
[b][size=150]ประวัติของ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน [/size][/b]
แจ็ค หม่า คือหนึ่งในบุคคลที่เป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการระดับโลกที่ดีที่สุด เขาไต่เต้ามาจากการเป็นไกด์นักท่องเที่ยวซึ่งมีฐานะยากจน เป็นที่รู้กันว่าถึงแม้จะประสบความสำเร็จอย่างใหญ่โตแต่ หม่า ก็ยังคงเป็นคนที่ถ่อมตนและไม่เคยลืมตัว สิ่งแรกที่เป็นตัวช่วยนำพาเขาสู่ความสำเร็จคือเขาเริ่มต้นด้วยการเรียนพูดภาษาอังกฤษ
เขาเป็นคนกลุ่มแรกๆที่มองเห็นประโยชน์ของการทำธุรกิจในอินเตอร์เน็ต เขาเล็งเห็นโอกาสและลงมือทำในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อและไม่เห็นด้วย และได้เริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจด้วยเงิน 20,000 ดอลลาร์ ต่อมาจึงสามารถทำกำไรได้เป็นเงิน 800,000 ดอลลาร์ภายในเวลาสามปี
ในเวลาต่อมาจึงหันไปเปิดเว็บไซต์อาลีบาบาในช่วงที่ผู้คนหันมาซื้อของทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้นรายได้จากเว็บไซต์นี้ก็พุ่งทะยานและทำให้เขาได้กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน นอกนั้นเขายังมีส่วนร่วมในการก่อตั้งเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์สัญชาติจีนคือ Taobao อีกด้วย แจ็ค เป็นนักธุรกิจที่ได้รับรางวัลมากมายในตลอดช่วงเวลาการทำงานของเขา ซึ่งรางวัลที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็คือรางวัลจากนิตยสาร Forbes กับนิตยสาร Time
ชีวิตในวัยเด็ก
พ่อแม่ของ แจ็ค หม่า ทำอาชีพเป็นนักเล่าเรื่องโดยใช้การเล่นดนตรี ในช่วงวัยรุ่นเขาพยายามอย่างหนักในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยตั้งใจว่าจะต้องพูดภาษานี้ให้ได้ พอโตขึ้นเขาก็ทำงานเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวไปชมสุดชมวิวต่างๆในเมืองหางโจว เขาจงใจเลือกทำอาชีพนี้เพื่อที่จะฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของเขา ต่อมาจึงเข้าเรียนที่ “สถาบันครูในเมืองหางโจว” และจบการศึกษาที่นั่นในปี ค.ศ.1988 หลังจากนั้นเขาก็เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ 5 ปีและลาออกไปทำธุรกิจ
ในตอนที่เขาเริ่มต้นทำธุรกิจ
แจ็ค หม่า ได้มีโอกาสรู้จักกับอินเตอร์เน็ตในช่วงกลางยุค 90s และได้มองเห็นถึงกระแสนิยมใหม่ , เห็นโอกาสในการประกอบธุรกิจด้วยอินเตอร์เน็ต
ในปี ค.ศ.1995 เขาเดินทางไปประเทศอเมริกาอยู่บ่อยครั้งเพื่อที่จะเรียนรู้การใช้งานอินเตอร์เน็ต และเพื่อนของเขาก็ได้สอนวิธีการเข้าใช้งานเว็บไซต์แก่เขา และในปีนั้นเองเขาก็ได้รวมทุนเป็นเงิน 20000 ดอลลาร์เพื่อเปิดบริษัทขึ้นมา
โดยบริษัทจะโฟกัสไปในการสร้างเว็บไซต์ให้กับลูกค้า แต่ถึงแม้มันจะเป็นธุรกิจใหม่แต่ก็ยังสามารถทำเงินให้เขาได้ถึงแปดแสนดอลลาร์ในช่วงเวลาสามปี ความสำเร็จของเขาทำให้ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลจีนให้เป็นหัวหน้าของศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นานาชาติจีนในปี ค.ศ.1998 แต่เขาทำงานกับบริษัทนี้ต่อแค่เพียง 1 ปี ก็ตัดสินใจเปิดบริษัทใหม่
หลังจากลาออกจากบริษัทของตัวเองเขาและเพื่อนๆก็ได้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบาขึ้นมา โดยมีเป้าหมายในการสร้างเว็บไซต์ที่ให้บริการขายของออนไลน์ โดยได้เงินสนับสนุนถึง 25 ล้านดอลลาร์ทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและในที่สุดก็เปิดสาขาไปใน 240 ประเทศทั่วโลก พอเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 21 เขาก็ร่วมก่อตั้งบริษัท e-business เพิ่มขึ้นมาอีกคือ Taobao , Lynx และ Ali Mama ซึ่งเขาเล็งเห็นว่าในอนาคตมันจะทำกำไรอย่างมาก
ต่อมาทางบริษัทอีเบย์ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเว็บไซต์ Taobao และพยายามติดต่อของซื้อบริษัท Taobao แต่ แจ็ค หม่า ไม่สนใจกับข้อเสนอจากทางอีเบย์ ในที่สุด Taobao ก็ไปเตะตาเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ Yahoo.com นั่นเองซึ่งบริษัท Yahoo ก็เข้ามาร่วมลงทุนด้วยโดยใช้เงินไป 1 พันล้านดอลลาร์
ต่อมาในปี ค.ศ.2007 เขาตกเป็นเป้าหมายของคำวิจารณ์เพราะมีคนเอาสินค้าที่ทำจากสัตว์มาขายในเว็บไซต์อาลีลาบา แถมยังทำให้บริษัทได้กำไรจากสินค้าประเภทนี้เป็นเงินมหาศาลอีกด้วย ทำให้ต้องมีการออกกฏใหม่เช่นห้ามขายสินค้าที่ทำด้วยหนังปลาฉลาม เป็นต้น
Suggested Quality Articles by [b]Drivemate[/b]