ตัวกลางการสื่อสาร (communication media : คะมิวนิเคเชิน มีเดีย) การสื่อสารข้อมูลใน
เครือข่ายจำเป็นต้องมีตัวกลางในการสื่อสารข้อมูล และเราควรเลือกใช้ตัวกลางในการสื่อสารให้เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้งาน และรวมถึงการลดต้นทุนเพราะเนื่องจากตัวกลางแต่ละตัวนั้นมีราคา และต้นทุนที่แตกต่างกันไปตามความสามารถของตัวกลาง ซึ่งตัวกลางในการสื่อสารข้อมูลนั้นมี 2 รูปแบบ ได้แก่ สื่อนำข้อมูลแบบใช้สาย (Wired Media : ไวร มีเดีย) และสื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Media : ไวร มีเดีย)
1.สื่อนำข้อมูลแบบใช้สาย (Wired Media : ไวร มีเดีย)
1.1 สายคู่บิดเกลียว (Twisted-Pair Cable : ทวิสท-แพร์ เคเบิล) สายคู่บิดเกลียวเป็นสายที่ได้รับความนิยมใช้กันมาก ซึ่งสายประเภทนี้เป็นสายที่ประกอบด้วยทองแดงสองเส้นบิดเกลียวตพันกัน ซึ่งสายคู่บิดเกลียวจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
1.1.1 แบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP : Unshielded Twisted Pair : อันชิลด์ ทวิสท-แพร์) เป็นสายที่พบกันมากในการเชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์โดยภายในประกอบด้วยสายคู่บิดเกลียวจำนวน 4 คู่ เป็นสายที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากมีราคาถูกกว่าสายชนิดอื่น และสามารถติดตั้งได้ง่าย แต่ความยาวในการเชื่อมต่อไม่ควรเกิน 100 เมตร สายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP) จะมีสายสัญญาณอยู่ทั้งหมด 4 คู่ 8 เส้น
ประกอบไปด้วย
- เขียว - ขาวเขียว
- ส้ม - ขาวส้ม
- น้ำเงิน - ขาวน้ำเงิน
- น้ำตาล - ขาวน้ำตาล
ข้อดี
-มีราคาถูก
-ติดตั้งง่ายเนื่องจากมีน้ำหนักเบา และมีความยืดหยุ่นสามารถโค้งงอได้ง่าย
ข้อเสีย
-ไม่เหมาะกับงานที่มีการเชื่อมต่อระยะไกลมาก เนื่องจากคุณภาพของสัญญาณจะถูกลดทอนไปตามระยะทาง
-เนื่องจากสายชนิดนี้ไม่มีฉนวนหุ้ม จึงอาจทำให้เกิดการรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย
- 16.png (80.05 KiB) Viewed 1145 times
1.1.2 แบบมีฉนวนหุ้ม (STP : Shielded Twisted Pair : ชิลด์ ทวิสท-แพร์) เป็นสายคู่พันเกลี่ยว แต่จะมีการหุ้มด้วยฉนวน (Shielded : ชิลด์) เพื่อป้องกันการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็ก ซึ่งพัฒนามาจากสายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP)
ข้อดี
-สามารถส่งข้อมูลได้เร็วกว่าสายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP)
-สามารถป้องกันคลื่นแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
-มีราคาแพง
-ติดตั้งยากกว่าสายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP) เนื่องจากมีการโค้งงอของสายน้อยกว่า
- 17.png (35.85 KiB) Viewed 1145 times
1.2 สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable : โคแอกเชียล เคเบิล) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สายโคแอ็กซ์ (coax) สายโคแอกเชียลนิยมใช้กันมากในการนำสัญญาณโทรทัศน์ หรือระบบเคเบิลทีวี ซึ่งสายโคแอกเชียลมีค่าความต้านทานที่ 75 โอห์ม และ 50 โอห์ม ซึ่งส่วนมากนิยมใช้สายที่มีความต้านทานที่ 75 โอห์ม ซึ่งสายโคแอกเชียลมี 2 ชนิด คือ สายโคแอ็กซ์แบบบาง (Thin Coaxial Cable : ธิน โคแอกเชียล เคเบิล) และสายโคแอ็กซ์แบบหนา (Thick Coaxial Cable : ธิค โคแอกเชียล เคเบิล)
โครงสร้างของสายโคแอกเชียลประกอบด้วย
1.สายทองแดงซึ่งเป็นแกนกลาง
2.ฟรอยด์หุ้มเพื่อกันสัญญาณรบกวน
3.สายนำสัญญาณกราวด์ มีลักษณะเป็นใยโลหะถัก
4.ฉนวน
ข้อดี
-มีราคาถูก
-ติดตั้งง่ายเนื่องจากสายโคแอกเชียลมีน้ำหนักเบา
-มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ข้อเสีย
-ถูกรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย
-มีการจำกัดระยะทางในการใช้สาย
- 18.png (53.31 KiB) Viewed 1145 times
1.3 ไฟเบอร์ออปติก(Fiber Optic Cable : ไฟเบอร์ออปติก เคเบิล) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สายใยแก้วนำแสง เป็นแก้ว หรือพลาสติกที่มีคุณภาพสูงซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ โดยใยแก้วนำแสงทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับ - ส่งข้อมูล และเมื่อนำสายประเภทนี้มาใช้ในการโทรคมนาคม ทำให้มีการรับ และส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และสายประเภทนี้สามารถป้องกันการรบกวนจากสัญญาญแม่เหล็กได้เป็นอย่างดีเนื่องจากใช้แสงเป็นตัวส่งข้อมูล จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ใน
เครือข่าย WAN อีกด้วย
ข้อดี
-สามารถรับ และส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
-สามารถป้องกันคลื่นแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
-มีราคาสูง
-ติดตั้งได้ยาก เนื่องจากการโค้งงอของสายสัญญาณทำได้ยาก
- 19.png (89.36 KiB) Viewed 1145 times
ภาพประกอบจาก : wikipedia.org
ภาพประกอบจาก : commons.wikimedia.org
[b]ตัวกลางการสื่อสาร (communication media : คะมิวนิเคเชิน มีเดีย)[/b] การสื่อสารข้อมูลใน[url=https://www.mindphp.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/31-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/4093-network-hardware.html]เครือข่าย[/url]จำเป็นต้องมีตัวกลางในการสื่อสารข้อมูล และเราควรเลือกใช้ตัวกลางในการสื่อสารให้เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้งาน และรวมถึงการลดต้นทุนเพราะเนื่องจากตัวกลางแต่ละตัวนั้นมีราคา และต้นทุนที่แตกต่างกันไปตามความสามารถของตัวกลาง ซึ่งตัวกลางในการสื่อสารข้อมูลนั้นมี 2 รูปแบบ ได้แก่ สื่อนำข้อมูลแบบใช้สาย (Wired Media : ไวร มีเดีย) และสื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Media : ไวร มีเดีย)
[b]1.สื่อนำข้อมูลแบบใช้สาย (Wired Media : ไวร มีเดีย) [/b]
[b]1.1 สายคู่บิดเกลียว (Twisted-Pair Cable : ทวิสท-แพร์ เคเบิล) [/b]สายคู่บิดเกลียวเป็นสายที่ได้รับความนิยมใช้กันมาก ซึ่งสายประเภทนี้เป็นสายที่ประกอบด้วยทองแดงสองเส้นบิดเกลียวตพันกัน ซึ่งสายคู่บิดเกลียวจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
[b]1.1.1 แบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP : Unshielded Twisted Pair : อันชิลด์ ทวิสท-แพร์)[/b] เป็นสายที่พบกันมากในการเชื่อมต่อ[url=https://www.mindphp.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/73-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/2219-desktop-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html]คอมพิวเตอร์[/url]โดยภายในประกอบด้วยสายคู่บิดเกลียวจำนวน 4 คู่ เป็นสายที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากมีราคาถูกกว่าสายชนิดอื่น และสามารถติดตั้งได้ง่าย แต่ความยาวในการเชื่อมต่อไม่ควรเกิน 100 เมตร สายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP) จะมีสายสัญญาณอยู่ทั้งหมด 4 คู่ 8 เส้น
ประกอบไปด้วย
- เขียว - ขาวเขียว
- ส้ม - ขาวส้ม
- น้ำเงิน - ขาวน้ำเงิน
- น้ำตาล - ขาวน้ำตาล
[b]ข้อดี [/b]
-มีราคาถูก
-ติดตั้งง่ายเนื่องจากมีน้ำหนักเบา และมีความยืดหยุ่นสามารถโค้งงอได้ง่าย
[b]ข้อเสีย[/b]
-ไม่เหมาะกับงานที่มีการเชื่อมต่อระยะไกลมาก เนื่องจากคุณภาพของสัญญาณจะถูกลดทอนไปตามระยะทาง
-เนื่องจากสายชนิดนี้ไม่มีฉนวนหุ้ม จึงอาจทำให้เกิดการรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย
[attachment=0]16.png[/attachment]
[b]1.1.2 แบบมีฉนวนหุ้ม (STP : Shielded Twisted Pair : ชิลด์ ทวิสท-แพร์)[/b] เป็นสายคู่พันเกลี่ยว แต่จะมีการหุ้มด้วยฉนวน (Shielded : ชิลด์) เพื่อป้องกันการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็ก ซึ่งพัฒนามาจากสายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP)
[b]ข้อดี[/b]
-สามารถส่งข้อมูลได้เร็วกว่าสายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP)
-สามารถป้องกันคลื่นแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี
[b]ข้อเสีย[/b]
-มีราคาแพง
-ติดตั้งยากกว่าสายแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (UTP) เนื่องจากมีการโค้งงอของสายน้อยกว่า
[attachment=1]17.png[/attachment]
[b]
1.2 สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable : โคแอกเชียล เคเบิล)[/b] หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สายโคแอ็กซ์ (coax) สายโคแอกเชียลนิยมใช้กันมากในการนำสัญญาณโทรทัศน์ หรือระบบเคเบิลทีวี ซึ่งสายโคแอกเชียลมีค่าความต้านทานที่ 75 โอห์ม และ 50 โอห์ม ซึ่งส่วนมากนิยมใช้สายที่มีความต้านทานที่ 75 โอห์ม ซึ่งสายโคแอกเชียลมี 2 ชนิด คือ สายโคแอ็กซ์แบบบาง (Thin Coaxial Cable : ธิน โคแอกเชียล เคเบิล) และสายโคแอ็กซ์แบบหนา (Thick Coaxial Cable : ธิค โคแอกเชียล เคเบิล)
[b]โครงสร้างของสายโคแอกเชียลประกอบด้วย[/b]
1.สายทองแดงซึ่งเป็นแกนกลาง
2.ฟรอยด์หุ้มเพื่อกันสัญญาณรบกวน
3.สายนำสัญญาณกราวด์ มีลักษณะเป็นใยโลหะถัก
4.ฉนวน
[b]ข้อดี[/b]
-มีราคาถูก
-ติดตั้งง่ายเนื่องจากสายโคแอกเชียลมีน้ำหนักเบา
-มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
[b]ข้อเสีย[/b]
-ถูกรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย
-มีการจำกัดระยะทางในการใช้สาย
[attachment=2]18.png[/attachment]
[b]1.3 ไฟเบอร์ออปติก(Fiber Optic Cable : ไฟเบอร์ออปติก เคเบิล) [/b]หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สายใยแก้วนำแสง เป็นแก้ว หรือพลาสติกที่มีคุณภาพสูงซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ โดยใยแก้วนำแสงทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับ - ส่งข้อมูล และเมื่อนำสายประเภทนี้มาใช้ในการโทรคมนาคม ทำให้มีการรับ และส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และสายประเภทนี้สามารถป้องกันการรบกวนจากสัญญาญแม่เหล็กได้เป็นอย่างดีเนื่องจากใช้แสงเป็นตัวส่งข้อมูล จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ใน[url=https://www.mindphp.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/73-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/2132-wan-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html]เครือข่าย WAN[/url] อีกด้วย
[b]ข้อดี[/b]
-สามารถรับ และส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
-สามารถป้องกันคลื่นแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี
[b]ข้อเสีย[/b]
-มีราคาสูง
-ติดตั้งได้ยาก เนื่องจากการโค้งงอของสายสัญญาณทำได้ยาก
[attachment=3]19.png[/attachment]
ภาพประกอบจาก : wikipedia.org
ภาพประกอบจาก : commons.wikimedia.org