1. Physical Layers (ฟิสซิเคิล เลเยอร์) ทำหน้าที่ในการประสานการทำงาน โดยการส่งบิต คือ การเคลื่อนย้ายข้อมูลระดับบิต จากโหนดหนึ่งไปยังโหนดถัดไป
2. Data Link Layers (ดาต้า ลิงค์ เลเยอร์) ทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้บริการส่งข้อมูลและรวบรวมข้อมูลจากชั้นสื่อสาร Physical และกำหนดรูปแบบของข้อมูลที่ส่งผ่านภายในเครือข่ายให้อยู่ในรูปแบบของ Frame (เฟรม) พร้อมทั้งควบคุมข้อผิดพลาดที่เกิดสูญหายระหว่างทาง
3. Network Layers (เน็ตเวิร์ค เลเยอร์) ทำหน้าที่จัดการรูปแบบข้อมูลที่เรียกว่า Packet ควบคุมการส่งผ่านข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทาง โดยจะต้องทำการ Routing เครือข่ายอินเตอร์เน็ตก่อน เพื่อจะทำการเลือกเส้นทางการส่ง Packet จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Router ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้กำหนดเส้นทางการส่งข้อมูลบนเครือข่าย
4. Transport Layers (ทรานสปอร์ท เลเยอร์) ทำหน้าที่ตรวจสอบ และควบคุมการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องต้นทางและเครื่องปลายทางให้ถูกต้อง โดยชั้นสื่อสาร Transport จะมีการใส่ Header ที่เรียกว่า Port Address เพื่อให้ชั้นการสื่อสารเน็ตเวิร์คสามารถส่ง Packet ต่างๆไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทางได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
5. Session Layers (เซสชัน เลเยอร์) ทำหน้าที่สร้างการติดต่อระหว่างเครื่องต้นทางและปลายทาง ตลอดจนดูแลการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องทั้งสองให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยจะควบคุมทั้งการสื่อสารและการซิงโครไนซ์
6. Presentation Layers (พรีเซนเทชัน เลเยอร์) ทำหน้าที่แปลงข้อมูลที่ส่งมาให้อยู่ในรูปแบบที่โปรแกรมของเครื่องผู้รับเข้าใจ รวมทั้งการจัดรูปแบบและนำเสนอข้อมูล โดยการกำหนดรูปแบบภาษา ชนิด และวิธีการเข้าถึงข้อมูลของเครื่องผู้ส่งให้เครื่องผู้รับเข้าใจถูกต้อง
7. Application Layers (แอพพลิเคชัน เลเยอร์) ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างโปรแกรมประยุกต์ของเครือข่ายกับผู้ใช้ โดยคอมพิวเตอร์จะแปลงข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้เข้าระบบ
ทั้ง 7 ชั้นยังแบบการทำงานออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 ชั้นสื่อสารที่สนับสนุนด้านเครือข่าย (Network Support Layers) ประกอบด้วยชั้นสื่อสารชั้นที่ 1, 2 และ 3 ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อทางกายภาพ และการขนส่งข้อมูลมีความแน่นอนและเชื่อถือได้
กลุ่มที่ 2 ชั้นสื่อสารเคลื่อนย้ายข้อมูล (Transport Layers) คือชั้นสื่อสารที่ 4 ทำหน้าที่ในการลิงค์เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มที่ 1 และ 3
กลุ่มที่ 3 ชั้นสื่อสารที่สนับสนุนงานผู้ใช้ (User Support Layers) ประกอบด้วยชั้นสื่อสารที่ 5, 6 และ 7 ทำหน้าที่อนุญาตให้ระบบซอฟต์แวร์ที่มีความแตกต่างกัน สามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา
การทำงานของ OSI Model (โอเอสไอ โมเดล) ของแต่ละชั้น
Moderator: mindphp, ผู้ดูแลกระดาน
-
- PHP Hero Member
- โพสต์: 114
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09/04/2018 10:04 am
-
- PHP Newbie
- โพสต์: 2
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18/04/2018 3:46 pm
- ติดต่อ:
Re: การทำงานของ OSI Model (โอเอสไอ โมเดล) ของแต่ละชั้น
เป็นข้อมูลทีมีประโชนย์มากเลยนะจริงๆ
-
- Similar Topics
- ตอบกลับ
- แสดง
- โพสต์ล่าสุด
-
-
โพสต์ใหม่ OSI Model (โอเอสไอ โมเดล) คืออะไร
โดย Patcharanan.0399 » 17/04/2018 10:19 am » ใน Share Knowledge - 0 ตอบกลับ
- 2330 แสดง
-
โพสต์ล่าสุด โดย Patcharanan.0399
17/04/2018 10:19 am
-
-
-
โพสต์ใหม่ ความหมายของ OSI Model (โอเอสไอ โมเดล) ของแต่ละชั้น
โดย Patcharanan.0399 » 17/04/2018 10:24 am » ใน Share Knowledge - 0 ตอบกลับ
- 3112 แสดง
-
โพสต์ล่าสุด โดย Patcharanan.0399
17/04/2018 10:24 am
-
-
-
โพสต์ใหม่ Relational database model (รีเรชั่น เดต้าเบส โมเดล) คืออะไร
โดย md040 » 25/11/2016 11:02 am » ใน SQL - Database - 1 ตอบกลับ
- 4693 แสดง
-
โพสต์ล่าสุด โดย prmindphp
21/09/2020 1:08 am
-
-
-
โพสต์ใหม่ ความแตกต่างระหว่าง Waterfall Model และSpiral Model
โดย norisa_dl » 23/04/2021 1:13 pm » ใน Microsoft Office Knowledge & line & Etc - 0 ตอบกลับ
- 1274 แสดง
-
โพสต์ล่าสุด โดย norisa_dl
23/04/2021 1:13 pm
-
-
-
โพสต์ใหม่ การทำงานของ Front-End กับ Back-End
โดย Before Dong » 20/02/2018 9:56 am » ใน พูดคุยเรื่องทั่วไป จับฉ่าย - 0 ตอบกลับ
- 2100 แสดง
-
โพสต์ล่าสุด โดย Before Dong
20/02/2018 9:56 am
-
ผู้ใช้งานขณะนี้
สมาชิกกำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และบุคลทั่วไป 89