การเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี Digital Hub หรือ Smart Digital Hub
ไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อเพิ่มศักยภาพเทียบเท่ากับประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนจึงมีเป้าหมายว่าจะยกระดับไทยให้เป็น ASEAN Digital Hub ซึ่งเป็นศูณย์กลางของข้อมูลดิจิทัลของประชาคมอาเซียนโดยไทยเขาสู่เทคโนโลยียุค 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ สำหรับ Digital Hub จะรวบถึงเทคโยโลยีต่างๆอย่างอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการพัฒนาศูนย์ข้อมูลระดับชาติ หรือ National Data Center เพื่อบริหารจัดการงานของรัฐ เทคโนโลยีที่ใช้สนับสนุนการค้าอย่าง Application, Website รวมถึง Moblie Banking อย่างเต็มรูปแบบ
ล่าสุดผู้นำเทคโลโนยีการขายสินค้าออนไลน์ E-Commerce (อี-คอมเมิร์ซ) "แจ็ค หม่า" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มอาลีบาบา ต้องการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลของไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 โดยมีความร่วมมือในหลากหลายมิติ อาทิ การส่งเสริม SMEs ทุกระดับเข้าสู่ อี-คอมเมิร์ซ การพัฒนาของดาวเด่น หรือ Talents ของไทย ในด้านดิจิตอล การยกระดับระบบโลจิสติกส์ โดยอาศัยเทคโนโลยีชั้นนำของอาลีบาบา และการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านระบบดิจิตอล
อาลีบาบา เล็งเห็นว่าไทยสามารถที่จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจจึงทุ่มเงินลงทุนกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท สำหรับโครงการสมาร์ท ดิจิตอล ฮับ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น นอกจาก อาลีบาบา จะเด่นเรื่องการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์มของ อี-คอมเมิร์ซ ยังครอบคลุมการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล
นอกจากประเทศไทย อาลีบาบายังมีโครงการลงทุนและความร่วมมือในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างมาเลเซีย โดย แจ็ค หม่า วิเคราะห์ว่า ไทยมีจุดแข็งอย่างมากด้านการท่องเที่ยว คนจีน 10 ล้านคน แห่มาเที่ยวไทยในแต่ละปี ถ้าสามารถนำระบบดิจิตอลมาเสริมให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ก็จะยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนได้มากขึ้นและสามารถนำไทยให้มีศักยภาพที่จะยกระดับทั้งด้านการท่องเที่ยวและการส่งออก
การที่เข้ามาลงทุนวางโครงสร้างพื้นฐานด้าน อี-คอมเมิร์ซ ทั้งหมด ทั้งมาร์เก็ตเพลส ระบบชำระเงิน ระบบคลังสินค้า และการขนส่งสินค้า โดยมีภาครัฐให้การสนับสนุน จะเป็นสะพานให้กับสินค้าจรนจะหลั่งไหลเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งในระยะยาวน่าจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ หรือ ผู้ผลิตสินค้าไทย ไม่สามารถแข่งขันได้ และทำให้ประเทศขาดดุลการค้าจีนที่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ, thansettakij ฐานเศรษฐกิจ
ภาพประกอบจาก : Mobiloitte, Greek Reporter
