การประสานข้อมูล หรือ การ Synchronization
การเข้าจังหวะในการส่งข้อมูล (Synchronization) ช่วยกำหนดลำดับในการขนส่งข้อมูลในแบบ Serial Transmission ถูกต้องไม่เกิดความสับสน เมื่อข้อมูลมายังปลายทาง โดยผู้ส่งและผู้รับข้อมูลด้วยความถี่เดียวกัน และด้วยอัตราความเร็วเท่ากัน การใช้สัญญาณนาฬิกา (Clock) กำหนดจังหวะของเวลาบิตเริ่มต้นและบิตจบ หรือทั้งอักขระให้พร้อมกันทั้งทางผู้ส่งและผู้รับ
ผู้ส่งและผู้รับสามารถแบ่งได้ 2 คือ
- Asynchronous Transmission
- Synchronous Transmission
Asynchronous มีการเพิ่ม Bit พิเศษเข้ามาอีกหนึ่ง Bit เอาไว้ก่อนหน้า Bit ข้อมูลเรียกว่า Start Bit โดยทั่วไปมักใช้ Bit 0 และเพื่อให้ผู้รับทราบจุดสิ้นสุดของข้อมูลจึงต้องมีการเพิ่ม Bit พิเศษอีกหนึ่ง Bit เรียกว่า Stop Bit มักใช้ Bit 1 การส่งข้อมูลแต่ละกลุ่มต้อมีช่องว่างระหว่างกลุ่ม โดยช่องว่างระหว่าง Byte อาจใช้วิธีปล่อยให้สัญญาณว่าง หรืออาจใช้กลุ่มของบิตพิเศษที่มี Bit จบก็ได้
Synchronous เป็นการส่ง Bit 0 และ 1 ที่ต่อเนื่องกันไปโดยไม่มีการแบ่งแยก ผู้รับต้องแยก Bit เหล่านี้ออกมาเป็น Byte หรือเป็นนตัวอักษรเอง การส่งข้อมูลแบบซิงโครนัสมีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบอะซิงโครนัสมากมีการใช้ความสามารถของสายสื่อสารได้เกือบทั้งหมด
การเข้าจังหวะในการส่งข้อมูล เป็นการช่วยลำดับข้อมูลในการขนส่งข้อมูลในแบบ Serial Transmission ถูกต้องไม่เกิดความสับสน เมื่อข้อมูลมายังปลายทางโดยผู้ส่งและรับข้อมูลด้วยความถี่เดียวกัน
ช่องทางการศึกษาเพิ่มเติมข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : บทความทั่วไป