Generative Fill - Adobe Photoshop | เพิ่มรายละเอียด ขยายองค์ประกอบให้กับภาพ (Beta)

เกริ่นนำ
กระแสรุนแรงอย่างไม่มีอะไรมาหยุดได้บนโลก Social Network ที่พูดถึงเกี่ยวกับ AI ที่เข้ามามีส่วนช่วยทำในการทำงานต่างๆ ในปัจจุบันของมนุษย์เรา อย่างเจ้าตัว Generative Fill ที่พัฒนาโดยสุดยอดโปรแกรมตัดต่อ ทำภาพ ที่คนทั่วโลกรู้จักอย่าง Adobe Photoshop ที่ได้พัฒนา Generative Fill เข้ามาในโปรแกรม Versions BETA ให้ทดสอบใช้งาน โดยสามารถที่จะเพิ่มรายละเอียดต่างๆ ลงไปในภาพ หรือ ขยายขอบเขตจินตนาการออกไปอย่างไม่มีสิ้นสุด เรียกได้ว่า เจ้าใหญ่แห่งวงการเข้ามาพัฒนา AI แล้วหล่ะก็ จะเป็นอย่างไร เราลองมาอ่านกันดูครับ


Creative Cloud คืออะไร ?
Creative Cloud เป็นแพลตฟอร์มของบริการคลาวด์ที่ให้บริการโปรแกรมและเครื่องมือสร้างสรรค์จาก Adobe ผ่านการสมัครสมาชิกเป็นสมาชิก Creative Cloud เป็นวิธีที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยมีความสามารถในการบันทึกและแชร์ไฟล์ในคลาวด์เพื่อให้สามารถเข้าถึงไฟล์และทำงานร่วมกันได้ระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีบริการอัปเดตล่าสุดของโปรแกรมและเครื่องมือให้แก่สมาชิกอยู่เสมอ
สมาชิก Creative Cloud สามารถเข้าถึงโปรแกรมที่มีอยู่ในชุด Creative Cloud ได้รวมถึง Adobe Photoshop, Adobe Illustrator, Adobe InDesign, Adobe Premiere Pro, Adobe After Effects และอื่น ๆ ซึ่งเป็นโปรแกรมและเครื่องมือสำหรับงานกราฟิก การออกแบบ การตัดต่อวิดีโอ และงานสร้างสรรค์อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีบริการคลาวด์เก็บข้อมูล (cloud storage) ที่ให้พื้นที่ในการเก็บไฟล์และแชร์ไฟล์ร่วมกันระหว่างเครื่องที่ต่างกันได้
Creative Cloud เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานโปรแกรม Adobe จากการซื้อซอฟต์แวร์แบบเดิมเป็นการเช่าใช้บริการแบบรายเดือนหรือรายปี ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเวอร์ชันล่าสุดของโปรแกรม และได้รับการอัปเดตตลอดเวลาที่สมัครสมาชิกอยู่ และการที่เราต้องการที่จะทดสอบใช้งาน Generative Fill ตัวนี้ จำเป็นต้องใช้งานผ่าน Creative Cloud ด้วยเช่นกัน
Generative Fill คืออะไร ?
Generative Fill (การเติมภาพโดยสร้างขึ้น) เป็นฟีเจอร์หนึ่งในโปรแกรม Adobe Photoshop ที่ใช้ในการสร้างข้อมูลภาพเพิ่มเติมเพื่อเติมพื้นที่ว่างหรือลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพ โดยใช้เทคโนโลยี Deep Learning หรือปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างภาพใหม่ที่เข้ากันได้กับภาพเดิม เมื่อใช้ Generative Fill ผู้ใช้งานเลือกพื้นที่หรือวัตถุที่ต้องการเติมและ Photoshop จะใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกฝึกสอนด้วยชุดข้อมูลภาพเพื่อสร้างภาพใหม่ภายในพื้นที่ที่เลือก โดยรูปแบบการสร้างภาพสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการปรับขนาดของภาพใหม่ การรวมร่างกายหรือสร้างรายละเอียดของภาพที่กำหนดได้ Generative Fill
Photoshop คืออะไร ?
Photoshop เป็นซอฟต์แวร์แก้ไขภาพที่พัฒนาโดยบริษัท Adobe Systems Incorporated ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในด้านการแก้ไขและปรับแต่งภาพดิจิตอล โปรแกรมนี้มีความสามารถที่หลากหลายและทันสมัยในการดำเนินการกับภาพถ่าย รวมถึงเครื่องมือในการปรับแต่งภาพต่าง ๆ เช่น ปรับความสว่าง ความคมชัด แก้ไขสี ลบวัตถุที่ไม่ต้องการ ตัดต่อภาพ และการสร้างภาพเชิงกราฟิกใหม่ โดย นับว่าเป็นโปรแกรมออกแบบกราฟิกชั้นนำและได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางในหลายอาชีพ เช่น ช่างภาพ นักออกแบบกราฟิก นักวาดดิจิตอล นักสื่อสิ่งพิมพ์ นักตกแต่งเว็บไซต์ และผู้ที่สนใจการแก้ไขและปรับแต่งภาพถ่ายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมีคุณภาพสูง
AI คืออะไร ?
AI หรือ Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์) คือกลุ่มของเทคโนโลยีและแนวคิดที่อ้างอิงถึงความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ในการทำงานเหมือนมนุษย์ในด้านความคิดและการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ หรือที่อื่นแสดงภาวะที่คล้ายคลึงกับปัญญามนุษย์ เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานอิสระโดยการใช้ข้อมูลเป็นหลักซึ่งได้รับการเรียนรู้และปรับปรุงความสามารถเองได้
AI สามารถมองเห็นและจำแนกวัตถุในภาพ แปลภาษาอัตโนมัติ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ สร้างเนื้อหาที่สร้างสรรค์ เช่น ดนตรี เรื่องเขียน ภาพยนตร์ เพลง และอื่น ๆ รวมทั้งภาความหมายของคำ การสืบค้นข้อมูลออนไลน์ และอีกมากมาย โดยใช้วิธีการและเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) และการเรียนรู้เครื่อง (Machine Learning) เป็นต้น
AI ได้รับการใช้งานและพัฒนาในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การขนส่ง การแพทย์ การการเงิน การผลิต การโฆษณา และการตลาด เพื่อช่วยลดเวลาและทรัพยากรในการดำเนินงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
ดาวน์โหลด Creative Cloud และ Photoshop(Beta)
ในการที่เราต้องการที่จะทดสอบใช้งาน Generative Fill นั้น จำเป็นที่จะต้องดาวน์โหลด Creative Cloud ก่อน เพื่อใช้งาน Photoshop(Beta) ได้
- เข้าที่เว็บไซต์ adobe.com จากนั้นกดที่ "ดาวน์โหลด Creative Cloud"
ดาวน์โหลด Creative Cloud - Login เข้าใช้งานผ่านช่องทางต่างๆ
Login เข้าใช้งานผ่านช่องทางต่างๆ - ค้นหา Photoshop Beta ในหน้าแรก
หากผู้ใช้งานยังไม่เคยดาวน์โหลด จะมีปุ่มให้กด Download ได้ครับ
ค้นหา Photoshop Beta ในหน้าแรก
ใช้งาน Generative Fill - Adobe Photoshop
หลังจากที่การดาวน์โหลดเสร็จสิ้นแล้ว เราก็สามารถเปิดโปรแกรมขึ้นมาได้ทันที และจะพบกับขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เลือกรูปที่เราต้องการใช้งาน โดยการลาก หรือ Import เข้าไป
เลือกรูปที่เราต้องการใช้งาน โดยการลาก หรือ Import เข้าไป - เมื่อเลือกรูปภาพมาแล้ว เราจะพบกับหน้าการใช้งาน Photoshop
หน้าการใช้งาน Photoshop
โดยส่วนที่เราจะใช้เป็นหลักสำหรับใช้งานร่วมกับ Generative Fill จะมี 2 ตัวคือ
1.Rectangular Marquee Tool สำหรับเลือกพื้นที่ต่างๆที่ต้องการเพิ่มเติม / แก้ไข 2.Crop Tool สำหรับตัดภาพ หรือ เพิ่มพื้นที่ให้ภาพ - Generative Fill การเพิ่มรายละเอียดภาพ
เราสามารถเพิ่มรายละเอียดภาพโดยการใช้ Rectangular Marquee Tool เพื่อเลือกพื้นที่ ที่เราต้องการเพิ่มรายละเอียดเข้าไป
เมื่อเราเลือกพื้นที่ด้วย Rectangular Marquee Tool แล้ว จะพบกับ Tab เครื่องมือขึ้นมา โดยส่วนที่เราต้องใช้งานจะมีหัวข้อดังภาพที่ตีกรอบสีเขียวไว้ "Generative Fill"Rectangular Marquee Tool เพื่อเลือกพื้นที่
Generative Fill
โดยในที่นี้ ทางผู้เขียนได้ระบุ "Refections" ที่แปลว่า เงาสะท้อนลงไป
Prompt : Refections
เมื่อการ Generate เสร็จสมบูรณ์ จะพบกับภาพผลลัพธ์ และ ตัวเลือกเพิ่มเติม อีก 3 ตัวที่แตกต่างกันออกไป ให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนได้ หรือ ต้องการที่จะเปลี่ยนรายละเอียด ก็สามารถพิมพ์ลงไปใหม่ได้เช่นกัน
ส่วนของ Refections ที่เราเพิ่มเข้าไป 3 รูปแบบ
ถึงแม้จะดูคล้ายกัน แต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันอยู่ในบางส่วนเช่น สันเขา หรือ ความเบลอของเงาสะท้อน - Generative Fill การเพิ่มขนาดของภาพ
จากหัวข้อด้านบน จะเป็นส่วนของการเพิ่มรายละเอียดภาพลงไป ในขนาดเท่าเดิมของภาพ แต่หากเราต้องขยายภาพให้ กว้าง / สูงขึ้นเราก็สามารถทำได้ผ่านเครื่องมือตัว "Crop Tool"
ตอนนี้จะสังเกตได้ว่าตัวภาพมีขนาดที่เพิ่มขึ้นออกมาทางด้านซ้าย และ ด้านขวา รวมถึงตัว เพิ่มรายละเอียดของ Refections จากหัวข้อด้านบนก็ยังอยู่Crop Tool
ใช้ Rectangular Marquee Tool และเลือกที่ช่องว่าง
จากนั้นให้เราใช้ Rectangular Marquee Tool และเลือกที่ช่องว่างที่เราเพิ่มเติมไป โดยให้กินพื้นที่ของภาพเล็กน้อย เพื่อที่การ Generative จะได้อ้างอิงจากส่วนนั้นของภาพต้นฉบับด้วย
เราจะไม่ใส่ Prompt หรือ รายละเอียดอะไรเลย AI สามารถประมวลผลได้ตรงตามกับรูปภาพที่เราต้องการไม่ใส่ Prompt
เพิ่มขนาดของภาพ - การ Export ภาพ
เมื่อเราได้ภาพที่พอใจแล้ว เราสามารถ Export ออกได้เหมือนกับตัว Photoshop ปกติได้เลยครับ
การ Export ภาพ - ผลลัพธ์
ก่อน Generative Fill
หลัง Generative Fill
แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้น เป็นเพียง Version Beta เท่านั้น หากตัวเต็มมา ทางผู้เขียนมั่นใจว่า มันจะต้องเป็นอีกหนึ่ง Feature ที่ทำให้วงการต้องพูดถึงกันอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ ตัวเงื่อนไขที่เราใช้อยู่นั้น มีอายุเพียง 7 วันเท่านั้น หากผู้ใช้งานต้องการที่จะใช้งานแบบไม่มีจำกัด ก็จะต้องซื้อ Creative Cloud Plan เพื่อใช้งานแบบไม่จำกัดนั้นเอง

จุดเด่น Generative Fill - Adobe Photoshop
เรียกได้ว่าจากภาพที่เห็นกันแล้ว ทางผู้เขียนเองก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมมากนัก สำหรับความสวยงาม และ ประสิทธิภาพการประมวลผลต่างๆ ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเบื้องต้นมีลิสต์รายการที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ดังนี้
- ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ชัดเจน และ หลากหลาย
- พัฒนาโดย Adobe Photoshop โปรแกรมทำภาพ อันดับ 1 ตลอดกาล ทำให้มีแหล่งข้อมูลเยอะมาก
- คุณภาพของการ Export ที่มากแบบไร้ขีดจำกัด
เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ทำงานสายกราฟิกไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว เพราะมีส่วนช่วยนำมาใช้งานได้อย่างมากกับงานที่ทำ หรือ หากต้องการที่จะใช้งานเฉพาะเอง Photoshop ก็เป็นโปรแกรมลักษณะนั้นอยู่แล้ว ไม่มีอะไรมาปฏิเสธ ความยิ่งใหญ่ และ ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจากการทดสอบใช้งานเลยทีเดียว แต่ก็แน่นอนว่า Photoshop ได้ปล่อย Feature นี้มาให้ใช้งานเมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา นั้นหมายความว่า มี AI ตัวอื่นๆ ที่เป็นสายงานด้านกราฟิกออกมาก่อนแล้ว (แต่เร็วกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าดีกว่าใช่ไหมหล่ะครับ ;D) อย่าง Midjourney AI อัจริยะ วาดรูป ตามคำสั่งง่ายๆโดยใช้ Keyword หรือ Shutterstock | AI สายด้านสร้างภาพจาก Keyword ยืดหยุ่นกับงานภาพหลายแบบ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าสะดวกจะนำไปใช้งานกับงานประเภทใดมากกว่าครับ