ใน JavaScript มีเมธอดมากมายที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือเกี่ยวกับเวลา เราสามารถเรียกใช้เวลาปัจจุบันได้ง่ายๆ เพียงแค่เรียก new Date()
ซึ่งเป็นObject (อ๊อบเจ็ค) แต่ยังมีเมธอด getTime () ที่น่าสนใจไม่แพ้กันและทำงานร่วมกับ Date object ด้วย
getTime () method คือเมธอดของออบเจ็กวันที่ในจาวาสคริปต์(method of Date object) เมธอดนี้ส่งคืนจำนวนมิลลิวินาที (milliseconds) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 1970 เมื่อมีการสร้าง new Date object มันจะเก็บข้อมูลวันที่และเวลาที่มันถูกสร้างขึ้น เมื่อเรียกใช้ เมธอด getTime () ตัวDate object นี้มันจะส่งกลับเป็นค่าจำนวนมิลลิวินาที(milliseconds) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1970
syntex ของเมธอดนี้
Date.getTime()
ตัวอย่างโค้ด HTML เราจะสร้างให้มันเรียบง่าย โดยหลักๆที่สำคัญคือการกำหนดชือ Class = "date" และ class = "time" เพื่อจะนำไปเรียกใช้ใน JavaScript ต่อไป
<html lang="en">
<head>
<meta charset="UTF-8">
<meta name="viewport"
content="width=device-width,
initial-scale=1.0">
<meta http-equiv="X-UA-Compatible"
content="ie=edge">
<title>Document</title>
</head>
<body>
<div>
<h2>Mindphp</h2>
<h4>Today's Date:
<span class="date">
</span>
</h4>
</div>
<div>
<h4>getTime():
<span class="time">
</span>
</h4>
</div>
</body>
</html>
ส่วนโค้ด javaScript มีดังนี้
<script>
var Today = new Date();
var date = document.querySelector(".date");
var time = document.querySelector(".time");
time.innerHTML = Today.getTime();
date.innerHTML = Today;
</script>
ผลลัพธ์ที่แสดงผลผ่านเบราเซอร์
จากผลลัพธืเราจะเห็น ตรงข้อความ Today เราเพียงแค่กำหนดตัวแปรให้เป็น var Today = new Date();
และนำตัวแปร today มาแสดง ส่วนgetTime() ที่เป็นตัวเลขหลายๆตัวต่อกัน ก็มาจาก Today.getTime()
ซึ่งนั้นคือจำนวนมิลลิวินาที(milliseconds) ที่นับต้งแต่วันที่ 1 มกราคม 1970 จนถึงปัจจุบัน มันจะนับแบบนี้ต่อไปเรือยๆ เราสมารถนำใช้ประโยชน์หลายด้านเช่นในการกำหนดชื่อไฟล์ เพราะมันไม่ทางที่จะซ้ำกัน จำนวนจะเพิ่มไปเรื่อยๆไม่หยุดครับ
ช่องทางการศึกษาเพิ่มเติมข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : JavaScript