ในJavaScript มีเมธอดมากมายที่เกี่ยวข้อกับการจัดการเกี่ยวกับอาเรย์ ไม่ว่าจะเป็น Array.Sort () หรือ เมธอท Array.prototype.every () และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งบทความนี้จะอธิบายถึง เมธอด arr.push() เป็นเมธอดที่ใช้บ่อยมาก และเป็นเมธอดที่สำคัญมาก เรามาดูกันว่ามันคืออะไรและใช้ยังไง
เมธอด arr.push () ใช้เพื่อส่งค่าๆหนึ่งหรือมากกว่าขึ้นไปในอาร์เรย์ ฟังก์ชั่นนี้จะเปลี่ยนความยาวของอาร์เรย์ด้วยจำนวนขององค์ประกอบที่เพิ่มเข้าไปในอาร์เรย์ Syntax ไวยากรณ์ของเมธอดมีดังนี้:
arr.push(element1[, ...[, elementN]])
- อาร์กิวเมนต์ : ฟังก์ชั่นนี้มีจำนวนของอาร์กิวเมนต์ เท่ากับจำนวนขององค์ประกอบที่จะแทรกเข้าไปในอาร์เรย์
- Return value : เมธอดนี้ส่งคืนความยาวใหม่ของอาร์เรย์หลังจากใส่อาร์กิวเมนต์ลงในอาร์เรย์
เรามาดูตัวอย่างโค้ดของการใช้ เมธอด arr.push () ดังนี้
// JavaScript to illustrate push() function
<script>
function func() {
// Original array
var arr = [34, 234, 567, 4];
// Pushing the elements
document.write(arr.push(23,45,56));
document.write("<br>");
document.write(arr);
}
func();
</script>
ผลลัพธ์ที่จะได้ คือ
7
34,234,567,4,23,45,56
จากผลลัพธ์ 7 คือจำนวนความยาวของอาเรย์ ซึงมาจากคำสั่ง
document.write(arr.push(23,45,56));
ถ้าหากเรา syntax ที่เขียนไว้ด้านบน method นี่้จะรีเทริน array.length หลังจากใส่ ค่าในอาเรย์ไปแล้ว และ 34,234,567,4,23,45,56
คือค่าที่มีอยู่ในอาเรย์หลังจาก push เข้าไป
ตัวอย่างที่สองดังนี้
<script>
// JavaScript to illustrate push() function
function func() {
var arr = [34, 234, 567, 4];
document.write(arr.push('jacob',true,23.45));
document.write("<br>");
document.write(arr);
}
func();
</script>
ผลลัพธ์ที่ได้ดังนี้
7
34,234,567,4,jacob,true,23.45
จากผลลัพธ์ตัวอย่างนี้ก็เหมือนกันกับตัวอย่างแรก นั้น คือ เลข 7 นั้น คือจำนวนความยาวของอาเรย์ ซึ่งเป็นค่าที่ return จากเมธอด arr.push()
และ 34,234,567,4,jacob,true,23.45
คือค่าที่มีอยู่ในอาเรย์หลังจาก push เข้าไป