gps ติดตามรถ มีความสำคัญกับธุรกิจโลจิสติกส์อย่างไร

[digital01]

ปัจจุบันนี้การจัดการเส้นทางเดินรถเพื่อขนส่งสินค้าได้เป็นตัวแปรสำคัญของผลกำไรในธุรกิจโลจิสติกส์หรือธุรกิจด้านการขนส่งสินค้า เมื่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงต่าง ๆ สูงขึ้น ผู้ประกอบธุรกิจจึงมีความจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับการขนส่งเพื่อช่วยลดต้นทุนในการให้บริการขนส่งสินค้า gps navigator หรือ gps นําทาง อุปกรณ์ที่มีความสามารถในการรับสัญญาณและข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อประมวลผลแสดงข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีความสำคัญกับธุรกิจนี้ เพราะเป็นเครื่องมือทันสมัยที่มีส่วนช่วยให้การนำการเดินทางสะดวก เมื่อนำมาติดตั้งที่ยานพาหนะขนส่งสินค้าไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถบรรทุก ระบบการทำงานของ gps จะช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่เดินทางไปถึงจุดหมายได้ในเวลารวดเร็ว พนักงานขับรถขนส่งสินค้าไม่ต้องคอยพะวงว่าจะหลงทางเมื่อต้องเดินทางขนส่งสินค้าไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ทำให้การขนส่งสินค้าให้มีความราบรื่นและนอกจากนำทางผู้ขับขี่ให้ถึงที่หมายแล้ว ยังสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมต้นทุนในการขนส่งสินค้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย


gps มีระบบซอฟแวร์ที่ช่วยกำหนดทิศทางการเดินรถ โดยผู้ขับขี่สามารถค้นหาตำแหน่งที่ต้องการผ่านอุปกรณ์ได้ในเวลารวดเร็วเพราะระบบได้เก็บตำแหน่งสถานที่ไว้กว่าแสนจุด มีรายละเอียดสูงและสามารถบอกเส้นทางได้แม่นยำ

gps มีระบบเสียงในการนำทางที่จะคอยบอกตำแหน่งของผู้ขับขี่รวมถึงมีการแจ้งเตือนด้วยเสียงก่อนถึงจุดเลี้ยวเพื่ออำนวยความสะดวกสบายและไม่ทำลายสมาธิในระหว่างขับขี่ เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เสมือนเป็นผู้ช่วยมือขวาของพนักงานขับรถขนส่ง

gps มีระบบแสดงผลสภาพการจราจรที่แม่นยำพร้อมการคำนวณระยะเวลาในการเดินทางเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถประเมินเวลาในการเลือกเส้นทางที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น

gps มีระบบบันทึกเส้นทาง ผู้ใช้สามารถบันทึกการเดินทางครั้งนั้นได้เพื่อใช้ในครั้งถัดไปโดยไม่ต้องเริ่มต้นการค้นหาใหม่ สะดวกสบายเหมาะกับการขนส่งสินค้าที่จะต้องเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งบ่อยครั้ง หากกลับมาใช้เส้นทางเดินรถเดิมอีกครั้งสามารถกลับมาย้อนดูเส้นทางก่อนหน้าที่เคยเดินทางได้

สิ่งเหล่านี้คือความสำคัญของการใช้งาน gps ในธุรกิจโลจิสติกส์ที่ช่วยให้ขั้นตอนการขนส่งสินค้ามีความสะดวกรวดเร็ว ทำให้ประหยัดต้นทุนในการขนส่งเนื่องจากระบบ gps จะบอกตำแหน่งสถานที่ที่เป็นเป้าหมายและสถานที่ใกล้เคียงได้อย่างละเอียด หากนำการแสดงผลมาประเมินจะทำให้สามารถวางแผนการเดินทางที่จะช่วยให้การขนส่งประหยัดเวลาและต้นทุนการเดินทางได้อย่างมาก เช่น เส้นทางใดใกล้กว่าเลือกใช้เส้นทางนั้นในการขนส่ง, จัดลำดับสถานที่ในการขนส่งสินค้าได้ทำให้เกิดความคล่องตัวในการขนส่งยิ่งขึ้น เป็นต้น

ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ที่ต้องเดินทางบ่อยนิยมใช้ gps ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเพราะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สำหรับการใช้เทคโนโลยีนี้ในธุรกิจโลจิสติกส์ ควรเลือกใช้ gps นําทาง ที่มีคุณภาพสูง เพื่อส่งเสริมให้การบริการของธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งปัจจุบัน gps ที่จำหน่ายมีให้เลือกหลากหลากยี่ห้อโดยมีราคาตั้งแต่ประมาณ 2,000 บาท ไปจนถึง 5,000 บาทขึ้นไป โดยหากต้องการความคุ้มค่าในการใช้งาน ก็ควรพิจารณาที่คุณสมบัติของตัวเครื่องเป็นหลักคือ ตัวเครื่องควรมี CPU ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แผนที่ต้องมีความละเอียด มีการอัพเดทเส้นข้อมูลเส้นทางอยู่ตลอดเพราะในปัจจุบันนี้เส้นทางการคมนาคมมีการพัฒนาและปรับปรุงอยู่อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น

ด้วยความสำคัญของเทคโนโลยีนี้จึงทำให้หลายธุรกิจในกลุ่มโลจิสติกส์นิยมนำ gps มาใช้ในการอำนวยความสะดวกให้ขั้นตอนการขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งบนรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งทางบกของบริษัทเอกชน, gps ใช้นำทางสำหรับการขนส่งทางน้ำ, แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเทคโนโลยีทันสมัยนี้ไม่เพียงเป็นที่นิยมนำมาใช้ติดตั้งบนรถยนต์ส่วนตัว แต่หากเลือกใช้ gps ที่มีคุณภาพสูง เทคโนโลยีนี้ยังสามารถสร้างมาตรฐานและส่งเสริมให้การจัดการขนส่งของธุรกิจในกลุ่มโลจิสติกส์มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการมอบบริการที่มีคุณภาพให้กับกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี

เพราะการประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ให้ประสบผลสำเร็จจะต้องอาศัยปัจจัยในหลายด้าน ขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ จึงมีส่วนในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ซึ่งหากผู้ประกอบการมีความต้องการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าบริการขนส่งมีคุณภาพและต้องการอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานขับรถขนส่ง มีความต้องการให้ธุรกิจดังกล่าวสามารถพัฒนาการให้บริการและเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้ประกอบจึงไม่ควรมองข้ามในการนำเทคโนโลยี gps นําทาง มาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจของตนเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก