1. Fortinet คืออะไร?
Fortinet, Inc. เป็นบริษัทจากสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งในปี 2000 โดย Ken Xie และ Michael Xie ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเครือข่าย ผลิตภัณฑ์หลักของ Fortinet คือ FortiGate ซึ่งเป็นอุปกรณ์ Firewall แบบ Next-Generation (NGFW) ที่มีความสามารถมากกว่าการกรอง packet ทั่วไป เช่น การตรวจสอบการบุกรุก (IPS), การกรองเว็บ (Web Filtering), การป้องกันมัลแวร์, และระบบ VPN
Fortinet ไม่ได้มีแค่ FortiGate เท่านั้น แต่ยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายภายใต้ชื่อ "Forti" เช่น:
- FortiAnalyzer – วิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัย
- FortiManager – บริหารจัดการอุปกรณ์ Fortinet แบบรวมศูนย์
- FortiClient – โซลูชัน Endpoint Security
- FortiAP – อุปกรณ์ Wi-Fi Access Point แบบปลอดภัย
- FortiSwitch – อุปกรณ์เครือข่าย Layer 2/3
- FortiMail, FortiWeb, FortiSandbox และอื่นๆ
2.1 ระบบปฏิบัติการ FortiOS
FortiOS เป็นระบบปฏิบัติการเฉพาะของ Fortinet ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทำงานด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ ทำให้สามารถควบคุม ฟังก์ชันการป้องกันต่างๆ ได้จากส่วนกลาง เช่น Firewall, VPN, IPS, Antivirus, Web Filtering และ Application Control
2.2 Security Fabric
หนึ่งในแนวคิดสำคัญของ Fortinet คือ Security Fabric ซึ่งเป็นการรวมทุกอุปกรณ์ของ Fortinet เข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถแชร์ข้อมูลภัยคุกคามและทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หาก FortiGate ตรวจจับมัลแวร์ได้ FortiClient ที่เครื่องปลายทางสามารถรับคำสั่งให้บล็อกทันทีโดยไม่ต้องรอผู้ดูแลระบบ
2.3 ASIC-Based Performance
Fortinet มีการพัฒนา ASIC (Application Specific Integrated Circuit) ของตัวเองที่ชื่อว่า SPU (Security Processing Unit) เพื่อให้การประมวลผลทำได้รวดเร็วมากกว่าการใช้ CPU ทั่วไป ส่งผลให้ FortiGate มี throughput ที่สูงและ latency ต่ำ
2.4 รองรับการทำงานแบบ Hybrid และ Cloud
Fortinet มีโซลูชันทั้งแบบ on-premise และแบบ cloud-native เช่น FortiGate VM, FortiWeb Cloud, FortiSASE และสามารถผสานเข้ากับ AWS, Azure, GCP ได้อย่างไร้รอยต่อ
3. ตัวอย่างการใช้งาน Fortinet
3.1 FortiGate เป็น NGFW + VPN Gateway
องค์กรหนึ่งที่มีสำนักงานใหญ่และสาขาหลายแห่งสามารถใช้ FortiGate เป็นศูนย์กลางของการป้องกันเครือข่าย โดยแต่ละสาขาติดตั้ง FortiGate และเชื่อมต่อผ่าน IPSec VPN หรือ SSL VPN กลับมายังสำนักงานใหญ่ ทำให้สามารถ:
- ป้องกันการโจมตีจากอินเทอร์เน็ต
- จำกัดสิทธิ์ผู้ใช้งานแต่ละแผนก
- เข้ารหัสข้อมูลระหว่างสาขา
- บริหารจัดการผ่าน FortiManager ได้จากส่วนกลาง
ในระบบรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร การเก็บ log และวิเคราะห์เหตุการณ์ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ FortiAnalyzer สามารถรวบรวม log จากอุปกรณ์ Fortinet ทั้งหมด แล้ววิเคราะห์ด้วย machine learning เพื่อหาพฤติกรรมผิดปกติ
หากต้องการระดับสูงขึ้น FortiSIEM จะช่วยผสานข้อมูลจากระบบอื่น เช่น Windows Server, AD, Database และวิเคราะห์แบบ real-time
3.3 FortiAP กับ FortiSwitch สำหรับเครือข่ายปลอดภัย
องค์กรที่มี Wi-Fi ภายในสามารถใช้ FortiAP เป็น Access Point โดยควบคุมจาก FortiGate ได้โดยตรง ป้องกันผู้ใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตได้ และสามารถแยก VLAN สำหรับแขกและพนักงานได้ง่าย
เมื่อเชื่อมต่อกับ FortiSwitch จะได้โครงสร้างเครือข่ายที่มีความปลอดภัยแบบ end-to-end พร้อมกับการตรวจสอบและควบคุมแบบครบวงจร
4. ประโยชน์ของการใช้ Fortinet
ความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ (Unified Threat Management)
ไม่ต้องติดตั้งหลายระบบแยกกัน เช่น Firewall, IDS/IPS, Antivirus, Web Filter เพราะ Fortinet รวมทุกอย่างในอุปกรณ์เดียว ลดต้นทุนและซับซ้อนในการดูแล
ความเร็วสูง รองรับโหลดได้ดี
ด้วยการใช้ SPU chip เฉพาะ Fortinet สามารถรองรับการรับส่งข้อมูลระดับ Gbps ได้โดยไม่ทำให้ระบบช้าลง เหมาะกับองค์กรที่มี user จำนวนมาก
ใช้งานง่ายและบริหารจัดการสะดวก
Web Interface ของ FortiOS ใช้งานง่าย พร้อม wizard สำหรับตั้งค่า VPN, Firewall และ Security Policy และสามารถบริหารจัดการหลายอุปกรณ์ผ่าน FortiManager ได้
รองรับ SD-WAN
FortiGate มีฟีเจอร์ SD-WAN ในตัว ช่วยเลือกเส้นทางการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดแบบอัตโนมัติ เช่น ระหว่าง MPLS และ Internet VPN เพื่อลด latency และค่าใช้จ่าย
รายงานและแจ้งเตือนแบบ real-time
สามารถสร้างรายงานได้หลากหลาย เช่น Bandwidth Usage, Application Monitoring, Threat Logs และมีระบบแจ้งเตือนผ่านอีเมลหรือ syslog
5. คำแนะนำในการนำ Fortinet ไปใช้งานจริง
5.1 เริ่มจากการประเมินความต้องการ
ก่อนเลือกซื้อ Fortinet ควรวิเคราะห์ความต้องการขององค์กร เช่น:
- จำนวนผู้ใช้งาน
- ความเร็วอินเทอร์เน็ต
- จำนวนสาขา
- ประเภทของแอปพลิเคชันที่ใช้
5.2 ใช้งานร่วมกับระบบเดิม
Fortinet รองรับการเชื่อมต่อกับระบบที่มีอยู่ เช่น Active Directory, Radius, LDAP หรือ syslog server เพื่อให้สามารถควบคุมสิทธิ์และตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.3 เปิดฟีเจอร์ที่จำเป็นตามความเสี่ยง
บางองค์กรอาจไม่จำเป็นต้องเปิดทุกฟีเจอร์ (เช่น Antivirus หรือ SSL inspection) เพราะจะมีผลต่อ performance ควรเปิดเท่าที่จำเป็น และค่อย ๆ ปรับทีละระดับ
5.4 ติดตั้งระบบบริหารจัดการและวิเคราะห์
หากองค์กรมีอุปกรณ์ Fortinet หลายตัว แนะนำให้ใช้ FortiManager และ FortiAnalyzer เพื่อบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ พร้อมกับรายงานและการแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ
5.5 ฝึกอบรมและจัดทำ Runbook
แม้ Fortinet จะใช้งานง่าย แต่ก็ควรฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ไอทีเกี่ยวกับการตั้งค่า, Backup config, ตรวจสอบ log และการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น รวมถึงจัดทำเอกสารหรือ runbook ไว้รับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน
บทสรุป
Fortinet เป็นผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยเครือข่ายที่ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่อย่างแท้จริง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ Firewall, VPN, Endpoint, Wireless, ไปจนถึงระบบ SIEM ที่สามารถทำงานร่วมกันภายใต้แนวคิด Security Fabric ได้อย่างไร้รอยต่อ, การเลือกใช้ Fortinet ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันภัยคุกคามจากโลกออนไลน์ แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการเครือข่าย ปรับปรุงประสิทธิภาพ และลดความซับซ้อนของโครงสร้างไอทีองค์กร, หากคุณกำลังมองหาโซลูชันที่ครอบคลุมเรื่อง Cybersecurity แบบครบวงจร, Fortinet คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งในแง่ความปลอดภัย ความเสถียร และความคุ้มค่าในระยะยาว
อ้างอิง
https://www.fortinet.com/solutions/enterprise-midsize-business/network-security
https://www.youtube.com/watch?v=SK3aWlaIaF8
https://www.youtube.com/watch?v=8DJP7ZyhOR8