นิทรรศการอวกาศ “นาซา เอ ฮิวแมน แอดเวนเจอร์” (NASA - A HUMAN ADVENTURE)
นิทรรศการอวกาศ “นาซา เอ ฮิวแมน แอดเวนเจอร์” (NASA - A HUMAN ADVENTURE)
การเดินทางอันยิ่งใหญ่ในห้วงอวกาศเพื่อเหล่ามวลมนุษยชาติ
จัดแสดง ณ บางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ (Bangkok Convention Center)
ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 จนถึง1 กุมภาพันธ์ 2558
บัตรราคา
- 500 บาท (บัตรผู้ใหญ่วันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์)
- 400 บาท (บัตรผู้ใหญ่ weekday)
- 350 บาท (บัตรเด็กวันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์)
- 250 บาท (บัตรเด็ก weekday)
โดยภายในนิทรรศการ นาซา เอ ฮิวแมน แอดเวนเจอร์ ได้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. ส่วนแสดงเทคโนโลยีอวกาศ เป็นส่วนที่แสดงยานอวกาศ ชุดอวกาศ ดาวเทียม รถยนต์อวกาศ หุ่นยนต์อวกาศ อาหารอวกาศ ห้องน้ำอวกาศ เครื่องมือติดต่อสื่อสารในโครงการอวกาศ กระสวยอวกาศและเครื่องยนต์ขับดัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อวกาศ ห้องบังคับการภาคพื้นโลกและภาคพื้นอวกาศ และ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการอวกาศ โดยโครงการอวกาศของนาซาที่นำมาแสดงจะเริ่มจากยุคของยานเมอร์คิวรี่ (Mercury) และเจมินี่(Gemini) ไปสู่ยุคของยานอพอลโล (Apollo) และกระสวยอวกาศ (Space Shuttle) นอกจากนี้ ยังมีวัตถุเทคโนโลยีอวกาศของโครงการอวกาศรัสเซียมาร่วมจัดแสดงด้วย ได้แก่ ดาวเทียมสปุตนิค (Sputnik) และ ยานหุ่นยนต์สำรวจดวงจันทร์ลูโนคอด (Lunokhod) เป็นต้น นอกจากนี้ ไฮไลท์ของส่วนนี้ยังประกอบด้วย ชุดนักบินอวกาศจำลองที่ Neil Armstrong ใส่ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์, เครื่องยนต์ Titan1 ที่เป็นตัวขับดันจรวด Saturn V ที่มีทรงพลังมากที่สุดของโลก, แผงบังคับยานและเครื่องยนต์ Lunar Module ที่ร่อนลงบนดวงจันทร์ แผงบังคับการจำลองของยาน Apollo ที่ประกอบด้วยเครื่องมือในการฝึกของจริงด้านใน และ ประตูยานอพอลโลจำลอง (Apollo Command Module Main Hatch) เป็นต้น
2. ส่วนเครื่องเล่น เป็นส่วนที่จัดแสดงไว้และอนุญาตให้ผู้เข้าชมสามารถทดลองหรือร่วมสนุกได้ ได้แก่
2.1. G-Force Simulator ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงแรงจี (G-Force) ขณะยานอวกาศทะยานออกสู่วงโคจรโลก และขณะกลับเข้าสู่ภาคพื้นโลกอีกครั้งหนึ่ง
2.2. The Globe เป็นจอภาพทรงกลม มองเห็นได้ 360 องศา ผู้เล่นจะมีแท่นบังคับการสามารถออกคำสั่งให้ The Globe แสดงข้อมูลของดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในระบบสุริยจักรวาลได้ ตั้งแต่ ดาวพุธ, ดาวศุกร์, โลก, ดาวอังคาร, ดาวพฤหัส, ดาวเสาร์, ดาวยูเรนัส, ดาวเนปจูน และดาวพลูโตโดยการแสดงข้อมูลจะเป็นแบบอินเตอร์แอ็คทีฟสนุกสนานเหมือนการเล่นเกมส์
2.3. Photo Activity Club เป็นจุดที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานสามารถเก็บความประทับใจเป็นภาพถ่าย และสัมผัสความรู้สึกในการมีส่วนร่วมในอวกาศอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการลองใส่ชุดนักบินอวกาศ หรือการถ่ายภาพในสภาวะไร้น้ำหนัก เป็นต้น
3. ส่วนขายของที่ระลึก เลือกซื้อของที่ระลึกที่เกี่ยวกับโครงการอวกาศและงานนิทรรศการ เช่น แจ็คเก็ตอวกาศ แบบจำลองยานอวกาศรุ่นต่างๆ พวงกุญแจยานอวกาศ ปากกาอวกาศที่ใช้ในภารกิจจริง และ Tag ต่าง ๆ เช่นเดียวกับที่เห็นในห้องบังคับการภารกิจ
4. Space Café ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสบรรยากาศเหมือนเข้าไปอยู่ในห้วงอวกาศ และมีโอกาสได้ลองเมนูอาหารพิเศษที่มีเฉพาะที่ Space Café แห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอในส่วนของเทคโนโลยีอวกาศ โดยแบ่งออกเป็น 7 โซน ดังนี้
โซนที่ 1 Gantry โซนทางเข้า โดยเลียนแบบทางเข้าสู่จรวด Saturn V อันทรงพลังที่ไปยังดวงจันทร์
โซนที่ 2 Dreamers เป็นโซนที่กล่าวถึงความฝันของมนุษย์ที่ต้องการศึกษาท้องฟ้าและดาราศาสตร์ และ ทุ่มเทชีวิตเพื่อแสวงหาวิธีการต่าง ๆ ในการสร้างฝันให้เป็นจริง กระทั่งมนุษย์สามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงด้วยการสร้างนวัตกรรมและออกไปสู่นอกโลกและเดินทางไปถึงดวงจันทร์ได้สำเร็จ
โซนที่ 3 Go Fever กล่าวถึงการที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องเดินทางไปพร้อมกับบริบททางสังคมและประวัติศาสตร์ โดยในที่นี้ โครงการอวกาศเคยกลายมาเป็นประเด็นที่ประเทศยักษ์ใหญ่ของโลก อย่าง สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต เคยใช้มาเป็นประเด็นในการแข่งขันเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าใครก้าวหน้ามากกว่ากัน
โซนที่ 4 Pioneers กล่าวถึง การที่ผู้บุกเบิกค้นคิดนวัตกรรมครั้งประวัติศาสตร์ในการสร้างจรวดที่ทรงพลังที่สุดของโลกกระทั่งปัจจุบัน นั่นคือ Saturn V ที่สามารถเดินทางไปดวงจันทร์ได้สำเร็จ
โซนที่ 5 Endurance กล่าวถึงความมานะอดทนและนวัตกรรมการดำรงชีวิตของมนุษย์อวกาศ ตั้งแต่ การแต่งตัว อาหารการกิน และ ชีวิตประจำวันทั่วไป
โซนที่ 6 Innovation กล่าวถึง นวัตกรรมในอวกาศและโครงการสำรวจอวกาศต่าง ๆ รวมถึงนวัตกรรมอวกาศที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
โซนที่ 7 Thai Innovation เป็นโซนที่รวบรวมนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับอวกาศของประเทศไทยมาจัดแสดง โดยนิทรรศการในส่วนนี้ ได้รับความร่วมมือจาก ไทยคมและสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ที่จะนำอุปกรณ์ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศมาจัดแสดงร่วมอีกด้วย