รูปของการได้มาซึ่งความรู้
1.Mentoring (พี่เลี้ยง)
ใช้การถ่ายทอดความรู้โดยตรง เกิดจากพนังงานที่มีประสบการณ์มากกว่า กับพนักงงานที่มีประสบการณ์น้อย เกิดปฏิสัมพันธ์การทำงานร่วมกัน และสามารถดึงศักยภาพพนักงงานที่มีประสบน้อยกว่าออกมาได้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรเมื่อพนักกงานที่มีประสบการณ์มากกว่าลาออกหรือเกษียนอายุการทำงานทำให้มีคนมารับช่วงต่อตำแหน่งได้ การถ่ายความรู้ประเภทนี้สามารถเห็นได้ในหลาย ๆ องค์กร ป้องกันความรู้สูญหาย และเพื่อความอยู่รอดขององค์กร
2.Coaching (การสอนงาน)
เปรียบให้เห็นภาพได้ชัดเจนในวงการกีฬาต่าง ๆ ใช้เสริมสร้างและพัฒนาให้มีทั้งความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะเฉพาะตัวเมื่อเปรียบเทียบกับการถ่ายทอดแบบพี่เลี้ยงแล้วนั้นการสอนงานจะเน้นให้คำแนะนำที่ชัดเจนกว่าการถ่ายทอดแบบพี่เลี้ยง
3.Story telling (การเล่าเรื่อง)
เป็นการดึงเอาประสบการณ์ หรือความรู้ที่อยู่ภายในตัวของผู้เล่าออกมา(Tacit Knowledge) เป็นการกระตุ้นและกอให้เกิดแรงบันดาลใจ
4.CoP-Community of Practice (ชุมชนแนวปฏิบัติ)
การรวมกลุ่ม เน้นเรื่องคนหรือวัฒนธรรม แบ่งประเภทของชุมชนแนวปฏิบัติ ดังนี้
- Helping community เป็นแบบเพื่อนช่วยเพื่อน
- Best practices พัฒนาและเผยแพร่แนวทางปฏิบัติที่ได้ผลที่ดี
- Innovation community การสนับสนุนสมาชิกได้มีความคิดสร้างสรรค์
จากรูปแบบการถ่ายทอดคามรู้ที่หลากหลายนั้นก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งตัวบุคคลในด้านที่สามารถพัฒนาต่อยอดความรู้เพื่อเผยแพร่สู่บุคคลอื่น และกับทั้งองค์กรนอกจากภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดีภายในองค์กรก็ยังจะมีบุคลากรที่มีศักยภาพ ความสามารถ เพื่อการดำรงอยู่ขององค์กร
การได้มาซึ่งความรู้ในข้างต้นนั้นทำให้เห็นว่าการถ่ายทอดความรู้ และการจัดการความรู้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบันการที่มีบุคคลที่สั่งสมไปด้วยความรู้ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัวแต่ละบุคคลก่อให้เกิดวิทยาการและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า การที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ที่ดีมักก่อให้เกิลผลในทางที่ดีดังนั้นองค์กรแต่ละองค์กรควรให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดความรู้และดึงศักยภาพของบุคคลเป็นที่ตั้ง