
เสริมความแกร่งองค์กรจากภายในด้วยการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์
การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความตระหนักในการสรรหาวิธีป้องกันภัยไซเบอร์ต่าง ๆ มาเพื่อทำให้องค์กรปลอดภัยจากการโจมตีที่มาจากแฮกเกอร์หรือผู้ประสงค์ร้ายภายนอกองค์กร แต่ทราบหรือไม่ว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ร้ายแรงที่สุดอาจไม่ได้มาจากภายนอก แต่อาจซ่อนตัวอยู่ภายในองค์กรเองพนักงานภายในองค์กรที่ไว้ใจอาจกลายเป็นตัวการที่ทำให้ข้อมูลอันล้ำค่าของคุณถูกทำลายได้ ซึ่งอาจเกิดจากเจตนาร้ายหรือความไม่ระมัดระวัง บทความนี้จะพาไปดูวิธีป้องกันภัยไซเบอร์ที่เกิดจากการโจมตีภายในองค์กร เพื่อให้องค์กรสามารถเฝ้าระวังและเสริมสร้างความปลอดภัยทั้งภายนอกและภายในให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์จากการถูกโจมตีที่เกิดภายในองค์กร
ภัยคุกคามทางไซเบอร์จากภายในองค์กร (Insider Threats) เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากบุคคลภายในองค์กรที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลหรือระบบภายในองค์กรตกอยู่ในความเสี่ยงได้ง่าย เพราะไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ซับซ้อนในการโจมตี ซึ่งข้อมูลสำคัญเหล่านั้นอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ ดังนั้นนอกจากการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์จากการโจมตีภายนอกแล้ว การวางแผนรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์จากภายในองค์กรก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน โดยองค์กรสามารถลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีได้ด้วยวิธีการ ดังนี้
- การจัดการสิทธิ์การเข้าถึง
วิธีป้องกันภัยไซเบอร์จากการโจมตีภายในองค์กรอย่างแรกคือการจัดการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล เนื่องจากบุคคลภายในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลภายในและขโมยหรือทำลายข้อมูลได้ง่าย การจัดการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลสามารถทำได้โดยใช้หลัก Least Privilege ซึ่งเป็นการให้บุคคลภายในองค์กรเข้าถึงข้อมูลเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการทำงานเท่านั้น นอกจากนี้การใช้การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน (Multi-factor Authentication) และการแบ่งสิทธิ์การเข้าถึงตามบทบาทงาน (Role-based Access Control หรือ RBAC) ก็เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีได้เช่นกัน
- การตรวจสอบและบันทึกกิจกรรม
การตรวจสอบและบันทึกกิจกรรมเป็นอีกวิธีป้องกันภัยไซเบอร์ภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับพฤติกรรมผิดเพื่อระบุการกระทำที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงจากบุคคลภายในองค์กรได้ เช่น การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน การเข้าถึงข้อมูลในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ หรือการดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมาก
- การฝึกอบรมและสร้างความตระหนักรู้
การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์จากภายในองค์กรที่ดีคือการฝึกอบรมและสร้างความตระหนักรู้ให้แก่บุคคลในองค์กร เพราะทุกคนในองค์กรล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยงและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การให้บุคคลในองค์กรทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง รวมถึงสร้างความเข้าใจร่วมกันจะช่วยให้องค์กรมีความปลอดภัยไซเบอร์ที่แข็งแกร่งขึ้น
- การใช้เทคโนโลยีป้องกัน
การใช้เทคโนโลยีป้องกันการเข้าถึงข้อมูลหรือป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันภัยไซเบอร์ภายในองค์กรที่ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในระบบได้อย่างรวดเร็ว และสามารถป้องกันการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เครื่องมือ DLP (Data Loss Prevention) เพื่อตรวจสอบและป้องกันการส่งข้อมูลสำคัญออกนอกองค์กร
- การสร้างนโยบายที่เข้มงวด
การสร้างนโยบายที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการใช้งานทรัพยากรภายในองค์กร นโยบายการออกจากองค์กร การบังคับใช้กฎหมายภายในองค์กร หรือมาตรการทางวินัยสำหรับการกระทำที่ผิดกฎขององค์กร สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ระบบภายในองค์กร การใช้งานอุปกรณ์ และการเข้าถึงข้อมูลมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะถือเป็นการกำหนดขอบเขตและควบคุมการกระทำของบุคคลภายในองค์กรได้อย่างชัดเจน
การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ภายในองค์กรถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่องค์กรไม่อาจมองข้ามได้ เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงการโจมตีจากภายนอกเท่านั้น แต่บุคคลภายในองค์กรเองก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงหรือความเสียหายต่อข้อมูลได้เช่นกัน เนื่องจากพวกเขามีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและระบบที่สำคัญภายในองค์กร องค์กรจึงควรมีแผนรับมือวิธีป้องกันภัยไซเบอร์เพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตีทั้งภายนอกและภายใน เพราะการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ครอบคลุมและแข็งแกร่งจะช่วยเสริมความมั่นคงและลดโอกาสในการเกิดการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ