








1. ระบบ cluster แบบปิด
จะซ่อนระบบนั้นไว้ทั้งหมด cluster นั้นจะต่อ ผ่าน Gateway ข้อดีของมันก็คือ จะมีความปลอดภัยที่สูง ส่วนข้อเสียก็คือมันจะไม่สามารถแบ่งส่วนการทำงานหรือบริหารข้อมูลจากภายนอกได้
2. ระบบ cluster แบบเปิด
ผู้ใช้นั้นสามารถเข้าถึงทุกโหนดได้เลยโดยตรงจากการเชื่อมต่อภายนอก ข้อดีของมันก็คือ ช่วยกับทำงานหรือแบ่งข้อมูลกันทำงานได้ ซึ่งมันเหมาะกับ การให้บริการข้อมูลจำนวนมาก เช่น เว็บหรือ FTP ส่วนข้อเสียนั้น คือ จะมีความปลอดภัยที่ต่ำมากเพราะจะต้อง มาจัดการดูแลเครื่องในระบบทั้งหมด ประโยชน์ของระบบ cluster
1.เพิ่มความทนทานของระบบให้มากขึ้น เพราะเมื่อมีเหตุขัดข้องกับตัว serverที่เป็น master ตัวที่เป็น slave ก็จะทำงานแทน ทำหน้าที่เหมือน Back up ข้อมูลแทนกัน
2.เวลาในการเรียกใช้หรือดูข้อมูลเร็วขึ้น เนื่องจากตัว slave ไปแบ่งส่วนการคิวรีของตัว master ทำให้ไปลดการประมวลผลของตัว master
3.สามารถทำการ back up ข้อมูลได้ขณะที่ตัว master server กำลังทำงานอยู่ โดยการbackup ที่ ตัว slave เป็นตัวเก็บข้อมูล
ดังนั้น



















- เป็นระบบที่มีสภาพพร้อมใช้งานสูงและเป็นระบบแบบภาระงานสมดุล (High availability and Load balanced)
- เป็นระบบที่รองรับงานต่อหนึ่งหน่วยเวลาในปริมาณมาก (High Throughput)
- ปรับเปลี่ยนขนาดของระบบได้ง่าย (Scalability)
- สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ทั่วไปได้ (Can deploy with low cost hardware)


- ใช้เครื่องจำนวนมาก (Need many number of machines)
- การคอนฟิกยุ่งยาก (Difficult in configuration)
- ไม่เหมาะกับงานที่มีการคิวรี่ที่ซับซ้อน เพราะยังทำงานช้ากว่าระบบแบบเครื่องเดี่ยว (Not work with complex query)
- ต้องใช้ทักษะในการติดตั้งและดูแลสูง (Required high technical skill)










ขอบคุณบทความจาก:รู้จักกับ MySQL Cluster
Database Cutter