- PDO นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ PHP ที่ใช้ในการเชื่อมต่อฐานข้อมูลจากโปรแกรม PHP ไปยังฐานข้อมูลต่าง ๆ โดยใช้พอร์ตอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น MySQL, PostgreSQL, SQLite, และอื่น ๆ อีกมากมาย มันเป็นเทคนิคการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมีการใช้ parameterized queries เพื่อป้องกันการโจมตีด้วย SQL injection อีกด้วยนั่นเอง
- เป็นระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (RDBMS) ที่ใช้งานบนระบบไฟล์ ซึ่งหมายความว่าฐานข้อมูลจะถูกจัดเก็บในไฟล์เดียวนั่นเอง และไม่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อการทำงาน โดยสิ่งนี้ทำให้ SQLite เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับโปรเจคที่ต้องการใช้งานฐานข้อมูลโดยไม่ต้องมีการติดตั้งและกำหนดค่าฐานข้อมูลนั่นเอง
1.ความแตกต่างในด้านประเภทของฐานข้อมูล
- PDO นั้นเป็นการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลหลายระบบ เช่น MySQL, PostgreSQL, SQLite, เป็นต้น ซึ่งเป็นตัวกลางที่ช่วยให้โปรแกรม PHP สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลต่าง ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโค้ดมากมาย เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูล
- SQLite นั้นเป็นฐานข้อมูลแบบไฟล์เดียวซึ่งถูกจัดเก็บในไฟล์ด้วยตัวมันเอง ซึ่งมีข้อจำกัดในการใช้งานในระบบที่มีการใช้งานหนักหรือการแชร์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่
- PDO นั้นมีฟังก์ชันที่มากกว่าในการจัดการฐานข้อมูลและมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า ในกรณีที่มีการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลหลายระบบ แต่บางครั้งอาจมีความซับซ้อนเมื่อต้องการใช้งานเฉพาะกับ SQLite เนื่องจากมีความยืดหยุ่นมากขึ้นนั่นเอง
- SQLite นั้นเป็นฐานข้อมูลที่เล็กและมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งานกับฐานข้อมูลขนาดเล็ก และมักจะเหมาะสำหรับการพัฒนาโปรเจคหรือแอปพลิเคชันที่มีขนาดเล็กหรือไม่ต้องการการใช้งานแบบพร้อมกันจำนวนมาก
- หากเราต้องการใช้งานฐานข้อมูลที่ใหญ่และมีการใช้งานมาก และต้องการความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลหลายระบบ หรือต้องการใช้งานร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลอื่น ๆ PDO อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า SQLite
- สำหรับโปรเจคหรือแอปพลิเคชันที่มีขนาดเล็กและมีความซับซ้อนน้อย SQLite อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีความเร็วและง่ายต่อการใช้งานนั่นเอง
อ้างอิง
https://arnondora.in.th/what-is-pdo/
http://www.thaiall.com/sqlite/index.html
http://keancode.github.io/php/pdo.html