Deepfake นวัตกรรมการหลอกลวงที่ลึกลํ้าและร้ายแรง
Deepfake คืออะไร ??
Deepfake เป็นเทคนิคการสังเคราะห์มนุษย์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ มักใช้เพื่อรวมและซ้อนภาพและวิดีโอที่มีอยู่ลงบนภาพหรือวีด๊โอต้นฉบับ โดยเทคนิคการเรียนรู้นี้ "generative adversarial network"(GAN) การรวมกันของวิดีโอที่มีอยู่และวีดีโอต้นทางทำให้เกิดวีดิโอปลอมที่อาจจะปรากฎบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง เช่น วิดีโอปลอมที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีคนหนึ่งกำลังกระทำทางเพศ ทั้งๆที่เขาไม่เคยมีส่วนร่วมหรือไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลย หรือสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนคำพูดหรือท่าทางของนักการเมืองเหมือนนักการเมืองคนนั้นทำหรือพูดอะไรบางอย่างทั้งๆที่เขาไม่เคยทำสิ่งนั้นเลย ความสามารถของ deepfake อาจจะถูกใช้ในทางที่ไม่ดี อย่างที่เคยเกิดขึ้น เช่น ใช้ในการสร้างวีดิโอลามกอนาจาร และ สร้างข่าวปลอมที่เป็นอันตรายและทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด
Deepfake เคยถูกนำมาใช้เพื่อสลับใบหน้าของนักการเมืองชื่อดังต่างๆ และเผยแพร่ลงในสื่อวีดิโอออนไลน์หรือสื่อสังคมออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น ใบหน้าของประธานาธิบดีอาร์เจติน่า เมาริซิโอเมครี (Mauricio Macri) ถูกแทนที่ดวยใบหน้าอดอล์ฟฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) และใบหน้าของ Angela Markel ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าของโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปจุบัน และในเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา Jordan Peele และ Jonah Peretti สร้าง deepfake โดยใช้ Barak Obama ออกมาประกาศเกี่ยวกับความอันตรายของ deepfake ผ่านสื่อวีดิโอ
ไม่เพียงเท่านั้น ในเดือน มกราคม 2018 ได้มีการเปิดตัว FakeApp ซึ่งแอพนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างวีดิโอที่สลับใบหน้าได้ หรือพูดง่ายๆคือ เป็นโปรแกรมแปะหน้าคนหนึ่งลงไปทับอีกคนหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี Deep learning และ AI และทำให้ดูเหมือนเป็นคนคนนั้นอยู่ในวีดิโอจริง และต่อเป็นที่นิอย่างมากในหมู่วัยรุ่น มีการแชร์ลงโซเซียลมากมาย
ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ การดูคลิปวีดิโอที่สร้างขึ้นโดย 'Deepfake'อย่างละเอียดและรอบคอบ อาจจะสามารถจับเท็จได้ด้วยตาเปล่า แต่ในอนาคต หรือในอีกหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า ความแนบเนียนของเทคโนโลยีนี้อาจจะเพิ่มมากขึ้นและการจับเท็จอาจยากขึ้นไปด้วย
อ้างอิง: electronics.howstuffworks.com
ช่องทางการศึกษาเพิ่มเติมข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Deepfake