สำหรับทุกๆ ธุรกิจหรือกิจการต่างๆก่อนเริ่มทำการหรือระหว่างทางนั้นจำเป็นต้องลงทุนซื้อสินทรัพย์เพื่อใช้เป็นที่ๆทำรายได้ให้เราต่างๆ นาๆ ที่หลายท่านรู้จักกันดีว่าในทางบัญชีนั้นไม่ได้คิดเป็นค่าใช้จ่ายแบบงวดเดียวจบมีการแบ่งแยกที่เรียกว่าค่าเสื่อมราคาเพื่อให้สามารถทำการบันทึกบัญชีกันได้สมจริงมากที่สุดนั่นเองซึ่งในสมัยนี้ก็ยังนิยมหันมาใช้งานโปรแกรมบัญชี ที่แสนจะมีบทบาทนำมาใช้ในหลายๆ ธุรกิจมากขึ้นเพื่อบันทึกค่าเสื่อมราคาแต่ละปี ๆ ให้มีความสะดวกมากขึ้นซึ่งการชำระค่าเสื่อมราคาแต่ละปีนี่แหละครับที่เราจะมาขยายความกันในบทความนี้ที่เรียกว่า ค่าเสื่อมราคาสะสม
ทุกๆ ท่านคงรู้จักกันอยู่แล้วว่าค่าเสื่อมราคา คือ จำนวนเงินที่มูลค่าของสินทรัพย์ถาวรเสื่อมค่าลงอันเนื่องมาจากการใช้งานสินทรัพย์ถาวรนั้น และสินทรัพย์ถาวรนั้นมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี แต่ เมื่อใช้ไปแล้วจริงอยู่ว่าสินทรัพย์ถาวรนั้นยังไม่หมดไป แต่มูลค่าของสินทรัพย์ถาวรนั้นก็ไม่เหลือเท่าเดิมแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากสินทรัพย์ถาวรนั้นมีการเสื่อมค่าลงตามการใช้งานนั่นเอง การที่สินทรัพย์ถาวรนั้นเสื่อมค่าลงในแต่ละปี จนหมดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ถาวรนั้น คือ ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรในแต่ละปี ซึ่งบัญชีค่าเสื่อมราคานี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ กิจการจะต้องทำการปรับปรุงบัญชีสำหรับค่าเสื่อมราคานี้ทุกวันสิ้นงวดบัญชีของกิจการ ทั้งนี้เนื่องจากจะได้ปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ถาวรให้ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งสินทรัพย์ถาวรทุกชนิดจะต้องมีการคิดค่าเสื่อมราคา ยกเว้นที่ดิน นะครับ
และสำหรับค่าเสื่อมราคาสะสมนั้น คือ รายการบัญชีที่อยู่ในหมวดของสินทรัพย์หมุนเวียน โดยค่าเสื่อมราคาสะสมหรือที่เรียกว่า Accumulated Depreciation จะแสดงตัวเลขสะสมของค่าเสื่อมราคาซึ่งเกิดจากสินทรัพย์ถาวรโดยค่าเสื่อมราคาสะสมจะเป็นรายการบัญชีที่มีไว้ปรับมูลค่าสินทรัพย์ถาวรที่อยู่ในบัญชีให้ตรงกับความเป็นจริง หรือจะมองง่ายๆ ก็คือ ค่าเสื่อมราคาที่เราๆ นั้น บันทึกในแต่ละปี ยกตัวอย่างเช่น
ซื้อ Server มา ในราคา 50,000 บาท ค่า ซาก 1 บาท ระยเวลา 5 ปี เราจะต้องทำการคิดค่าเสื่อมราคา 5 ปี โดยปีละ 9,999.8 บาท x 5 ปี + เพิ่มกับ ค่าเสื่อม ไอ้ค่าเสื่อมราคา 9,999.8 นี่ละ ปีแรกจ่าย 9,999.8 ปีที่ 2 จ่าย อีก ก็จะกลายเป็น 9,999.8 ปีที่ 1 + 9,99.8 ปีที่ 2 = 19,999.6 ส่วนนี้แหละที่เรียกค่าเสื่อมราคาะสะสม สะสมเพิ่มขึ้นจบครบ 5 ปี หรือ ครบ ราคาที่ไม่รวมค่า ซาก นั่นเอง
ค่าเสื่อมราคาสะสมจัดอยู่ในหมวดสินทรัพย์ และจัดอยู่ในงบดุล
การบันทึกบัญชีของ ค่าเสื่อมราคาสะสม ได้แก่
Debit ค่าเสื่อมราคา (ชื่อสินทรัพย์ถาวร) xxxx
Credit ค่าเสื่อมราคาสะสม (ชื่อสินทรัพย์ถาวร) xxxx
ซึ่งในปัจจุบันก็มรการนำมาบันทึกในโปรแกรม ERP มากขึ้น ฏ้สามารถคิดคำนวณและแสดงให้เราเห็นได้เองเลยตามตัวอย่างนี้
ค่าเสื่อมราคาสะสมบน ERP
โดยในระบบ ERP เองก็ยังมีการแสดงรายการที่ครบถ้านไม่ว่าจะเป็น รายการ ค่าเสื่อมราคา และก็ยังแสดงผลลัพธ์ของค่าเสื่อมราคาสะสมให้เราๆ เหล่าๆ นักบัญชีได้ใช้งานกันง่ายมากขึ้นนะครับ
เป็นยังไงบ้างละครับสั้นๆ ง่ายเลยสำหรับค่าเสื่อมราคาสะสมที่หลายๆท่านเคยได้ยินและความแตกต่างระหว่าง ค่าเสื่อมราคากับค่าเสื่อมราคาสะสมก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไรเพียงแค่ค่าเสื่อมีราคาสะสมก็คือจำนวนค่าเสื่อมราคาตั้งแต่ปีแรก ทบยอดเพิ่มขึ้นจนครบกำหนดระยะเวลาปีเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนราคาค่าเสื่อมเท่ากับจำนวนเงินที่เราได้ซื้อมานั้นเองนะครับและในสมัยนี้ก็แนะนำให้ใชโปรแกรม ERP เข้ามาใช้ประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ในองค์กรของคุณกันนะครับ แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเรื่องราวในวันนี้ก็ขอขอบคุณที่เข้ามาชมกันมากๆ เลยนะครับ
อ้างอิง
ความแตกต่างระหว่าง ค่าเสื่อมราคากับค่าเสื่อมราคาสะสม,[Online],เข้าได้จาก https://www.mindphp.com/บทความ/194-e-commerce/ความรู้ธุรกิจ/4158-depreciation-expenses-and-accumulate-depreciation-expenses.html
ค่าเสื่อมราคาสะสม คือ เป็นบัญชีประเภทใด,[Online], เข้าได้จาก https://xn--b3cf3alb5cxfdh8a1v.com/ค่าเสื่อมราคาสะสม