มาทำความรู้จักกับ Blockchain
โดยทั่วไปแล้ว การทำธุรกรรมหรือสัญญาใดๆ ระหว่างคนหรือองค์กร 2 ฝ่ายนั้นต้องมีตัวกลางซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของคนหรือองค์กรเข้ามาในฐานะบุคคลภายนอกที่จะมา เป็นพยานยืนยันถึงการมีตัวตนของธุรกรรมหรือสัญญานั้นๆ เผื่อถ้าหากวันหนึ่งมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญาหรือธุรกรรมนั้นๆ ก็จะได้มีตัวกลางนี้มาช่วยในการยืนยันให้ ได้นั่นเอง ตัวอย่างของตัวกลางที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ธนาคาร ที่เป็นตัวกลางทางด้านการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ มาโดยตลอด แต่การมีตัวกลางนี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธุรกิจการเงินเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงทุกๆ ธุรกิจทุกรูปแบบ Blockchain (บล็อคเชน) เป็นเทคโนโลยีที่จะมาแทนตัวกลางเหล่านี้
Blockchain (บล็อคเชน) คือ รูปแบบการเก็บข้อมูล (Database) แบบหนึ่งของระบบที่ไม่มีศูนย์กลางแต่เชื่อถือได้และโกงยากหรืออธิบายอย่างง่ายๆ คือการให้ทุกคนถือเอกสาร ชุดเดียวกัน เมื่อมีการอัปเดตก็จะอัปเดตด้วยกัน โดยมั่นใจได้ว่าเอกสารเหล่านั้นเชื่อถือได้แน่นอนไม่มีการปลอมแปลง Blockchain (บล็อคเชน) เป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังระบบ Bitcoin (บิทคอยน์)ทุกๆ ข้อมูลที่มีการบันทึกลงไปใน Blockchain (บล็อคเชน) นั้นจะไม่สามารถถูกลบออกไปได้ และสามารถติดตามลำดับการบันทึกข้อมูลย้อนหลังทั้งหมดได้อย่างโปร่งใส
- ข้อมูลภายใน Blockchain (บล็อคเชน) นี้จะถูกกระจายไปจัดเก็บบน Hardware (ฮาร์ดแวร์) หลายๆ เครื่องซึ่งเราจะเรียก Hardware (ฮาร์ดแวร์) แต่ละชุดนี้ว่า Node (โหนด) โดยจะมีการรับประกันว่าข้อมูลเหล่านั้นจะเหมือนกันทั้งหมด ซึ่ง Node (โหนด) เหล่านี้จะเก็บเอาไว้ในองค์กรเดียวกัน หรือกระจายช่วยกันเก็บในหลายองค์กรก็ได้เช่นกัน
- การบันทึกข้อมูลใดๆ ลงไปใน Blockchain (บล็อคเชน) นั้นจะต้องได้รับการตรวจสอบและยืนยันจาก Node อื่นๆ ตามเงื่อนไขการตรวจสอบที่กำหนด ก่อนที่จะมีการบันทึกข้อมูล เหล่านั้นเข้าระบบและกระจายให้ Node (โหนด) ต่างๆ บันทีกข้อมูลชุดเดียวกันลงไป เพื่อให้สามารถปรับใช้งานได้ตามความต้องการ
- รองรับการเข้ารหัสสำหรับข้อมูลแต่ละชุดได้ ดังนั้นถึงแม้ข้อมูลของเราจะถูกกระจายไปยัง Node (โหนด) อื่นๆ และอาจถูกบางคนมองเห็น แต่คนอื่นๆ ก็จะไม่สามารถถอดรหัสข้อความของเราได้ นอกจากตัวเราเองและผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเหล่านี้ที่เราอนุญาตให้เข้าถึงได้เท่านั้น (เป็นการเข้ารหัสแบบ Hash (แฮช))
ดังนั้นสรุปง่ายๆเกี่ยวกับ Blockchain (บล็อคเชน) เมื่อนำความสามารถหลักๆ เหล่านี้เข้ามาประกอบกัน เราก็จะได้ ระบบที่มีความน่าเชื่อถือสูงและมีความโปร่งใส เพื่อใช้ ทดแทนตัว กลางในการทำธุรกรรมหรือสัญญาใดๆ ได้ทันที เพราะเรามั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกลงไปในระบบของ Blockchain (บล็อคเชน) นี้จะถูกต้องเสมอ (ยกเว้นเสียแต่ว่าเราจะบันทึก ข้อมูลลงไปผิดเองแต่แรก) ไม่มีการถูกปลอมแปลงเด็ดขาด และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมหรือสัญญาก็จะเห็นข้อมูลนี้เป็นชุดเดียวกันอย่างแน่นอน
