แม้ว่า Tkinter จะมีเมธอดในการจัดโครงร่างให้เลือกใช้ถึง 3 แบบ แต่การจัดวางวิดเจ็ตก็อาจทำไม่ได้ตามที่เราต้องการเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดวางแบบที่ซับซ้อน เราอาจจะใช้ place() ได้แต่ก็อาจจะยุ่งยาก ในการกำหนดพิกัดหรือตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม เรายังมีอีกหนึ่งวิธีที่เป็นทางเลือกในการจัดวางวิดเจ็ต นั่นก็คือการใช้เฟรม (Frame) เข้ามาช่วย และในบทเรียนนี้เราจะมาพูดถึงการจัดโครงร่างซ้อนกันด้วยการใช้เฟรมกัน
การจัดโครงร่างซ้อนกันโดยใช้ Frame
เฟรมก็คือวิดเจ็ตอีกหนึ่งชนิด ที่สามารถใช้เป็นคอนเทนเนอร์ได้เช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะใช้ในการแบ่งโครงร่างเป็นส่วนย่อยๆ ก่อน แล้วค่อยนำมาจัดวางบนวินโดว์อีกที หรือเป็นการจัดโครงร่างซ้อนกันนั่นเอง ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมกันมาก เพราะสามารถจัดวางวิดเจ็ตที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น โดยจะมีตัวอย่างการใช้งานดังนี้
from tkinter import *
window = Tk()
window.config(bg='light green')
fm1 = Frame(bg='blue') #เฟรมที่ 1
fm2 = Frame(bg='green') #เฟรมที่ 2
fm1.pack(side=LEFT)
fm2.pack(side=LEFT, padx=20)
bt1 = Button(fm1, text='ONE') #ให้ fm1 เป็นคอนเทนเนอร์
bt2 = Button(fm1, text='TWO')
bt3 = Button(fm1, text='THREE')
bt1.pack(side=TOP) #วางปุ่มบนเฟรมที่ 1
bt2.pack(side=TOP)
bt3.pack(side=TOP)
btn11 = Button(fm2, text='FIRST') #ให้ fm2 เป็นคอนเทนเนอร์
btn22 = Button(fm2, text='SECOND')
btn33 = Button(fm2, text='THIRD')
btn11.grid() #วางปุ่มบนเฟรมที่ 2
btn22.grid(row=0,column=1)
btn33.grid(row=1,column=0)
mainloop()
ผลลัพธ์
ผลลัพธ์การแบ่งเฟรม
และจากตัวอย่างในโค้ดที่เราใช้งาน จะสังเกตุได้ว่าเราสามารถใช้งานเมธอดร่วมกันได้แล้ว โดยจะแบ่งเป็นเฟรมนั่นเอง สำหรับการจัดวางโครงร่างซ้อนกันด้วยเฟรม สามารถประยุกต์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้พัฒนา เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้เฟรมในการจัดโครงร่างที่ซับซ้อนได้แล้ว
ช่องทางการศึกษาเพิ่มเติม
การจัดโครงร่างด้วยเมธอด pack() ในโมดูล Tkinter